ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00 – 23.00 น. ภายใต้การอำนวยการของนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง อำนวยการให้ นายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอวังจันทร์ พร้อมด้วย นายอนุวัตน์ วงษ์มิตร ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียนและบัตร นายธนพล สวัสดิ์วงษ์ ปลัดอำเภองานศูนย์ดำรงธรรม นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอวังจันทร์ที่ 6 ปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมกลุ่มค้ายาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่า นายเผชิญ หรือ ต้อม อาชีพช่างไฟฟ้า เปิดบ้านจำหน่ายยาเสพติดให้กลุ่มแรงงานและวัยรุ่นในเขตตำบลวังจันทร์ โดยสามารถซื้อได้ตลอดเวลา จึงให้ สมาชิก อส.ทำทีเป็นลูกค้าขอซื้อยาบ้ากับนายต้อม ซึ่งในบ้านมีชายฉกรรจ์นั่งอยู่ด้วยอีกหลายคน ระหว่างนั้น นายต้อมเกิดความระแวงพยายามจะวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ซึ่งแอบดูอยู่จึงได้แสดงตัวและวิ่งไล่ติดตามชายในกล่มที่วิ่งหลบหนีไปด้วย จนสามารถควบคุมตัวไว้ได้ เมื่อตรวจปัสสาวะชายทั้งกลุ่มจึงพบว่าเสพยาเสพติดทุกราย จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 138 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 11.25 กรัม เครื่องชั่งไอซ์ ถุงพลาสติกใสใช้แบ่งบรรจุยาเสพติด และไฟแช็คจำนวนมาก ซึ่งนายต้อมรับว่าจำหน่ายยาบ้าแล้วแถมไฟแช็คให้กับลูกค้าไปด้วย โดยใช้สถานที่บ้านเป็นทั้งที่จำหน่ายและเสพได้ตลอด โดยยาเสพติดทั้งหมดเป็นของนายบอมส์ นักค้ายาบ้าที่่ใช้รถกระบะสีขาวส่งยาเสพติดให้กับเอเย่นส์ในพื้นที่อำเภอวังจันทร์ ซึ่งนายต้อมจะรับยาบ้าจากนายบอมส์มาประมาณครั้งละ 200 -400 เม็ด และ ยาไอซ์ 10 กรัม เจ้าหน้าที่จึงขอให้นายต้อมติดต่อกับนายบอมส์ให้นำยาบ้ามาส่งที่จุดนัดหมาย
ต่อมา นายบอมส์ และ แฟนสาวได้ขับรถกระบะสีขาวมาที่จุดนัดหมายเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านของนายต้อม โดยยังไม่ยอมลงจากรถเข้าไปในบ้านของนายต้อม แต่ได้ตะโกนเรียกให้นายต้อมออกมาพบ เจ้าหน้าที่ซึ่งได้วางกำลังรอบบริเวณและแอบดูอยู่ จึงส่งสัญญานให้นำรถกระบะของราชการซึ่งจอดแอบไว้ ขับออกมาจอดปิดทางออก และแสดงตัวขอตรวจค้น พบผู้ชายคนขับชื่อนายบอมส์ และ ผู้หญิงนั่งข้างชื่อนางสาวกวาง ตรงกับที่นัดหมายไว้ จึงขอตรวจปัสสาวะทั้งคู่ไม่พบสารเสพติด นายบอมส์ยอมรับว่าขับรถมาส่งยาบ้าให้กับนายต้อม จำนวน 200 เม็ด เมื่อตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 198 เม็ด และเงินสดในกระเป๋า 12,880 บาท ซึ่งนายบอมส์ยอมรับว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งวันนี้ช่วงเย็นได้จำหน่ายยาบ้าไปแล้ว จำนวน 800 เม็ด โดยได้สั่งยาบ้าจากพระสงฆ์ชื่อ “วันชาติ” หรือ กิ๊ก ครั้งล่าสุดในสัปดาห์นี้ ตนเองได้สั่งไปจำนวน 10,000 เม็ด แต่ช่วงนี้ยาเสพติดในสายของพระวันชาติขาดตลาด เนื่องจากทางราชการจังหวัดระยองปราบปรามอย่างเด็ดขาด จึงยังไม่มียาบ้าตามจำนวนที่สั่ง พระวันชาติจึงได้โอนเงินให้ตนเองกลับคืนไว้ก่อนบางส่วน
เจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลโทรศัพท์ติดต่อกับพระวันชาติ แต่พระวันชาติเกิดความหวาดระแวง ขอคุยกับนายบอมส์เอง ไม่คุยกับผู้อื่น ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม 2568 ช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจสอบพระวันชาติ ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด โดยพระวันชาติรับว่าเสพยาอีผสมยาบ้าในกุฎิวัด แต่ให้การปฏิเสธว่า ได้พูดคุยจำหน่ายยาเสพติดเล่นๆกับนายบอมส์เท่านั้น ต่อมา ได้รับว่าได้ติดต่อผู้ค้ารายอื่นให้กับนายบอมส์ แต่ช่วงนี้ยาเสพติดมีไม่ครบจำนวนยอดสั่ง จึงโอนเงินคืนไป สำหรับประวัติพระวันชาติ ได้จำคุกคดีค้ายาเสพติด 9 ปี 8 เดือน เมื่อพ้นโทษจึงได้เข้าบรรพชา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวให้ลาสิกขาและดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนขยายผลติดตามจับกุมนักค้ายาเสพติดและเครือข่ายเพื่อนำตัวมาดำเนินการทางกฎหมายต่อไป