“แม่ทัพภาค2” ตอบโต้
เซ็น คำสั่ง ปิดด่าน ชายแดนเขมร
ที่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์
งด เยี่ยมชมปราสาทตาเมือน -ปราสาทตาควาย
เพื่อปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัย
และ ปกป้องอธิปไตย
บูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย การรักษา
ตอบโต้ เขมร ไร้มนุษยธรรม ละเมิดอธิปไตย ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา
เป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพ และเสถียรภาพ
การปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ
ตามที่ได้มีคำสั่งกองทัพภาคที่๒ (เฉพาะ) เรื่อง มาตรการยกระดับการควบคุม การผ่านแดน ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์
“ในห้วงเวลาได้ปรากฏเหตุการณ์ลอบวางทุ่นระเบิดบริเวณพื้นที่ชายแดนช่องบก และ ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี จนเป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสาหัส อันเกิดขึ้นภายในเขตราชอาณาจักรไทย
โดยสันนิษฐานว่า เป็นการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่ไร้มนุษยธรรม และละเมิดอธิปไตย ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพ และเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศ
กองทัพภาคที่2 จึงกำหนดให้ปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีมาตรการ ดังนี้
1.งดการผ่านเข้า – ออก ของยานพาหนะทุกประเภท
2. งดการเดินทางผ่านเข้า -ออก ของประชาชน การค้าขายทุกประเภท นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
3.งดการเยี่ยมชมปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย ของนักท่องเที่ยว
เพื่อปรับปรุงระบบการรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้ เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย การรักษา
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย มิให้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในลักษณะ-เช่นนี้อีกต่อไป และแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตย และขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่24 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป
#ปืดด่านขายแดนเขมร
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
ที่มาวาสนา นาน่วม