เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รองผกก.สส.สภ.บางพลี ร่วมกันสอบปากคำผู้เสียหาย ชายหญิงชาวลาวรวม 5 คน หลังจากที่พากันเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับ นางสาว แพร อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดอำนาทเจริญ ในข้อหา ฉ้อโกง และลักทรัพย์ หลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายชาวลาวกลุ่มนี้ ถูกนางสาวแพร ก่อหลอกลวงให้เดินทางมาจากจังหวัดอยุธยา เพื่อมาทำงานและเปิดห้องเช่าให้ ก่อนจะเชิดเงินค่าเช้าห้องและโทรศัพท์ของผู้เสียหายหลบหนีไป จนกระทั่งถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้กลางห้างชื่อดังย่านบางพลี ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง
นาย ทอง หนุ่มชาวลาว หนุ่มในผู้เสียหาย บอกว่า ตนเองและแฟนสาวพากันมาเที่ยวหาญาติที่จังหวัดอยุธยา แล้วต้องการหางานทำในประเทศไทย จึงเข้าไปดูในกลุ่มหางานของเฟสบุ๊ค และพบว่ามีผู้ใช้เฟสบุ๊คคนหนึ่ง ในชื่อว่าคุณนุ่น ได้โพสต์ในกลุ่มว่าต้องการรับสมัครงาน โดยจะให้ไปทำงานในร้านอาหาร และได้ค่าแรงวันละ 400 บาท ตนจึงสนใจ และทักไปหาคนที่โพสต์ ก็คือตัวนางสาวแพร จนกระทั่งนางสาวแพรติดต่อกลับมาว่า จะให้มาทำงาน แต่จะต้องเดินทางมาพบที่ห้างย่านบางพลี โดยให้เรียกรถผ่านแอฟ ตนเองและแฟนด้วยความที่ยากมีงานทำส่งเงินกลับบ้านเกิดที่ประเทศลาว จึงยอมเดินทางมา นางสาวแพร ตามนัด หลังจากที่เดินทางมาถึง ก็พูดคุยกับนางสาวแพร และนางสาวแพร แจ้งว่า ตนเองและแฟนจะต้องเสียเงินเป็นค่าเช่าห้องเพื่อจะได้ทำงาน โดยจะต้องวางมัดจำและค่าเช่าเดือนแรก รวมเป็นเงิน 4000 บาท ตนจึงกดเงินสดเอทีเอ็มทั้งหมดที่มีในบัญชี 4000 บาท ออกมา พอได้เงินสด นางสาวแพร ออกอุบายกับแฟนว่าจะพาไปดูห้องพัก ให้ตนเองรออยู่ที่หน้าห้าง แฟนจึงเดินตามนางสาวแพรไป โดยที่นางสาวแพร เป็นคนถือเงิน 4 พันบาท พร้อมทั้งเอาโทรศัพท์ของตนเองไปด้วย ตอนแรกตนเองก็ไม่คิดอะไร เพราะความไว้ใจและเห็นว่าแฟนไปด้วย จนผ่านไปราวชั่วโมงเศษแฟนกลับมาแจ้งว่า นางสาวแพร หลอกให้ยืนรอแล้วหายตัวไป ตนจึงไปถามหานางสาวแพรกับคนในละแวกนั้น จนมีพี่ขับวินรถจักรยานยนต์บอกว่าเพิ่งรับไปส่งที่ห้างอีกแห่ง จึงรีบเดินทางไปที่ห้างดังกล่าว พอไปถึงก็พบว่า นางสาวแพร กำลังก่อเหตุซ้ำกับคนงานชาวลาวอีก 3 คน จึงรีบแจ้งตำรวจเข้ารวบตัว
ขณะที่ นาย ปลั๊ก หนึ่งในผู้เสียหายอีกคนบอกว่า ตนเองและเพื่อนรวม 3 คน ก็ถูกก่อเหตุ ในลักษณะเดียวกัน และติดต่อผ่านมาทางกลุ่มหางานในเฟสบุ๊คเช่นกัน ซึ่งเงินทั้งหมดที่ถูกนางสาวแพรหลอกไปนั้น เป็นเงินเก็บกันที่เหลืออยู่ และตอนแรกตั้งใจจะพากันกลับบ้าน แต่พอเห็นว่ามีการรับสมัครงานและนางสาวแพรแจ้งว่าจะให้นายจ้างไปทำเรื่องขอทำบัตรสีชมพูเพื่อทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจึงหลงเชื่อจนกระทั่งมาถูกหลอกดังกล่าว
ทั้งนี้กลุ่มผู้เสียหายอยากฝากบอกเตือนภัยสำหรับใครที่คิดจะหางานผ่านทางออนไลน์ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อนจะกลายเป็นเหยื่อของนักต้มตุ๋นแบบนี้
ส่วนนางสาว แพร ผู้ก่อเหตุ ให้การกับทางผู้กำกับทั้งน้ำตา ยอมรับว่าตั้งใจก่อเหตุหลอกเอาเงินของกลุ่มผู้เสียหายจริง แต่ที่ทำลงไปนั้นเพราะมีความจำเป็น เนื่องจากตนเองมีลูกเล็กและเลิกรากับสามีไป จนไม่มีเงินเลี้ยงลูก อีกทั้งยังติดหนี้นอกระบบรายวันจึงทำให้เกดอารมณ์ชั่ววูบตัดสินใจก่อเหตุ ส่วนที่ทำในลักษณะนี้ได้นั้นเพราะตนเองเคยรับจ๊อบเป็นอีเจนซี่จัดหาคนงานจึงพอจะรู้ช่องทางในการโพสต์ดึงดูให้คนต่างด้าวที่หางานเข้ามาติดต่อตัวเอง ตำรวจยังถามต่ออีกว่าทำแบบนี้มาแล้วกี่ครั้ง นางสาวแพร ยอมรับว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง
ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี ระบุยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เชื่อว่ามีผู้เสียหายมากกว่านี้ จึงอยากประชาสัมพันธ์หากมีผู้เสียหายรายใดที่ตกเป็นเหยื่อนางสาวแพร ขอให้มาแจ้งความ เนื่องจากเป็นภัยต่อสังคม ส่วนนางสาวแพร เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา ฉ้อโกง และอาจถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหาลักทรัพย์ เรื่องที่เอาโทรศัพท์ของผู้เสียหายไป ส่วนกลุ่มผู้เสียหายจากการตรวจสอบพบเอกสารพาสสปอร์ตสัญชาติลาวถูกต้องและยังมีกำหนดพักอาศัยในราชอาณาจักรไทยในฐานะนักท่องเที่ยว จึงไม่ใช่แรงงานที่หลบหนีเข้าเมือง
***************************
อัญมณี คงสินธ์ / เจริญพงษ์ นาคขำ จ.สมุทรปราการ
ตำรวจบางพลีรวบตัวทันควันสาวอำนาทเจริญตุ๋น 5 ชาวลาว หลอกมาทำงานผ่านทางเฟสบุ๊ค

