ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สกัดจับรถกระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
พบเจ้าหน้าที่ อส. ซุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเต็มคันรถ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย (กองบังคับการตำรวจทางหลวง) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล.,พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล.,พ.ต.ท.ธนาคาร จันทร์กระจ่าง รอง ผกก.ช่วยฯ รอง ผกก.7 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วริศร มัจฉา สวญ.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. และ พ.ต.ท.มนัสวี กะดะแซ สว.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม
ผู้ต้องหาที่ 1 นายสายชลฯ อายุ 36 ปี
ผู้ต้องหาที่ 2 นายธีระวัฒน์ฯ อายุ 36 ปี
ผู้ต้องหาที่ 3 นาวสาวขนิษฐาฯ อายุ 39 ปี
ส่วนผู้ต้องหาที่ 4-14 เป็นแรงงานต่างด้าวสัญญาญเมียนมา
ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน
1.) ผู้ต้องหาที่ 1 – 3 ว่า “ร่วมกันซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม โดยรู้ว่าคนต่างด้าวเหล่านั้น เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตาม พรบ.คนเข้าเมือง
และกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 เพิ่มเติมว่า “พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุจำเป็น เร่งด่วน อันสมควรแก่พฤติการณ์”
2.) ส่วนผู้ต้องหาที่ 4-14 (บุคคลต่างด้าว) กระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา จำนวน 1 คัน
2. อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ CZ P-10 C จำนวน 1 กระบอกพร้อมแม็กกาซีน จำนวน 1 อัน
3. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 11 นัด บรรจุอยู่ภายในแม็กกาซีน
4. โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง
5. ตั๋วโดยสารรถไฟรถนั่งพัดลม ( 24 บชส.76 ) สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ถึง ชุมทางหาดใหญ่ จำนวน 9 แผ่น
พฤติการณ์ : เมื่อวันที่ 20ก.ค.68 ตำรวจทางหลวงสงขลา ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ เพื่อส่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายภาคใต้ โดยใช้รถยนต์กระบะเป็นยานพาหนะ จึงได้เฝ้าติดตามจนพบรถต้องสงสัยเป็นรถกระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และกระบะท้ายใส่หลังคาติดฟิล์มกระจกมืดทึบ ขับขี่ด้วยความเร็ววิ่งมาตามถนน ทล.4 มุ่งหน้า จ.ปัตตานี จึงได้สกัดจับที่บริเวณสี่แยกไฟแดงหน้า
หอนาฬิกาจะนะ ถนนสายเอเชีย อ.จะนะ จ.สงขลา
จากการตรวจสอบภายในรถ พบนายสายชลฯ อส.อำเภอรามัน จ.ยะลา เป็นคนขับ และพกอาวุธปืน
9 มม.ซึ่งเป็นปืนหลวงของฝ่ายปกครอง พร้อมกระสุน 9 มม.ในแมกกาเซียน 11 นัด และยังมีนายธีระวัฒน์ฯและน.ส.ขนิษฐาฯ นั่งโดยสารมาด้วยบริเวณเบาะหน้าข้างคนขับ
ซึ่งภายในห้องโดยสารด้านหลังคนขับมีหญิงสาวแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งอีก 4 คน และที่กระบะท้ายรถมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาผู้ชายนั่งมา 8 คน พร้อมกระเป๋าเดินทาง รวมแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 12 คน นอกจากนี้ในตัวแรงงานต่างด้าวยังพบตั๋วรถไฟเดินทางจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์-หาดใหญ่ ซึ่งออกเดินทางมาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 อีก 9 ใบ จากการตรวจสอบแรงานต่างด้าวทั้ง 12 คน พบว่ามีหนังสือเดินทางเพียงคนเดียวส่วนที่เหลืออีก 11 คนลักลอบเข้าเมืองไม่มีเอกสารใด ๆ
จากการตรวจสอบรถกระบะคันนี้พบว่ามีนายธนากรฯ เป็นเจ้าของรถและเชื่อว่าเป็นนายหน้าจัดหาแรงงานต่างด้าว และผู้ว่าจ้างในครั้งนี้ เบื้องต้นจากการสอบสวน นายสายชลฯ ให้การว่าได้มีเพื่อนโทรศัพท์มาขอช่วยให้ขับรถมาช่วยขนแรงงานต่างด้าวจากอำเภอหาดใหญ่ให้ไปส่งที่ อ.เมืองยะลา จังหวัดยะลา โดยตนไปรับแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้จาก 2 จุด คือ ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ 9 คน และที่หน้าวัดควนลัง 3 คน
ส่วน นายธีระวัฒน์ฯ กับ น.ส.ขณิษฐาฯ เป็นบุตรบุญธรรมของ นายธนากรฯ เจ้าของรถ ได้รับค้างจ้างในการขนคนละ 500 บาท โดยได้รับจ้างขนแรงงานต่างด้าวมาแล้ว 2 ครั้ง
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.จะนะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะขยายถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป