ปิ่นโต PMN2 !!และสนาม K5
ทหารเขมร แสบ!! ถอนกำลังทหาร
ออกจากแนวต้นพญาสัตตบรรณ ช่องบก 8 มิถุนายน 2568 แล้ว
วางทุ่นระเบิดไว้ด้วย
ตามรายงานข่าว ของหน่วยในพื้นที่
ระบุว่า หลังการปะทะกับทหารไทย 28 พค.2568
ทหารเขมร กลัวทหารไทย จะบุกมาอีก
จึงวางทุ่นระเบิดไว้
และเมื่อมีเจรจา ถอนกำลังออกจากดินแดนไทย 8 มิย. นอกจากไม่ได้เก็บกู้ แล้ว ยังวางทุ่นระเบิด PMN2 เพิ่มด้วย ตามภาพ ปร่กฏชัดเจนว่า วางใหม่
มีข่าวว่า แม้ลงนามใน อนุสัญญาออตตาว่าแต่กัมพูชา ก็ยังทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไม่หมด
ยังคงเก็บไว้ใช้ จนปัจจุบัน และมีการจัดหามาเพิ่มเติม 
เป็นที่รู้กันดีว่า “สนามทุ่นระเบิด K5” ในสมัยการสู้รบ นั้น ทหารเวียดนาม วางทุ่นระเบิดไว้ หลังจากเขมรแตก เพื่อป้องกัน การอพยพหนีของชาวเขมร และป้องกันการซ่องสุมกำลังของฝ่ายต่อต้านตามแนวชายแดนไทย
โดยเป็นการวางแบบ สนามทุ่นระเบิดมาตรฐาน หนาแน่น และเป็น ”คลัสเตอร์ “
ทุ่นระเบิดที่ใช้ ในเวลานั้น คือPMN ส่วนใหญ่มีสภาพเก่า ผุ เป็นสนิม พื้นที่สนามทุ่มระเบิด อยู่ทั้งในพื้นที่ของไทยและกัมพูชา
ส่วน PMN-2 พบถูกใช้ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อประมาณปี 2540 โดยเขมรฝ่ายเฮงสัมริน หรือฝ่าย(ฮุนเซน ช่วงที่รบกับ เขมรแดง ของ นายพอลพต และ นายพลตาม็อก และเขมรเจ้าสีหนุ นั้น คาดว่า เขมร เฮง สัมริน ได้รับการสนับสนุน ทุนระเบิดที่ผลิตจากรัสเซีย มาจากเวียดนาม
ลักษณะการวาง ไม่ได้วางแบบหนาแน่นเป็นสนามทุ่นระเบิดมาตรฐาน แต่เป็นการวาง ปิดพื้นที่ หรือ ปิดเส้นทางเดิน หรือปิดเส้นทางลาดตระเวน วางจุดละ 3-4 ทุ่น
แม้ลงนามในสนธิสัญญาออตวา แต่กัมพูชาไม่เคยแสดงว่า มีการทำลายทุ่นระเบิดที่เก็บในคลัง
แต่CMAC ของเขมร ทำการเก็บกู้ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพียงอย่างเดียว
โดยปรากฏหลักฐานว่าได้มีการนำเอา ทุ่นระเบิด PMN-2 มาใช้วาง ตลอด เรื่อยมา บริเวณเขาสัตตะโสม และใน ปี 54 ที่สู้รบกันที่เขาพระวิหาร
หลักนิยมของเขมร คือ เวลาวางกำลังในพื้นที่ จะมีการวางทุ่นระเบิดป้องกันตนเองเสมอ และเวลาถอนตัว ก็ไม่มีการรื้นถอนออกไป
เข่นที่ ครั้งนี้ ทหารเขมรเข้ามายึดดินแดนไทยและเมื่อเจรจาถอนกำลังก็ไม่ได้เก็บกู้ไปด้วย แถมยังมีการวางเพิ่มเพราะรู้ว่าวันหนึ่งทหารไทยจะต้องเข้ามาเพราะเป็นแผ่นดินไทย
#ช่องบก
#กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
#cambodiaviolatestheottawatreat
#เลวร้ายและชั่วมาก
#หากคนไทยหันมาฆ่ากันเอง
#เราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
ที่มา วาสนา นาน่วม