อาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิตแจ้งความเอาผิด เพจเฟซบุ๊กโพสต์บิดเบือนข้อเท็จจริง
วันนี้ (4 กรกฎาคม 2568) พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล หรือ อาจารย์โต้ง อาจารย์ประจำคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.)
ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กรณีมีผู้โพสต์ข้อความบิดเบือนความจริง ทำให้เกิดความเสียหาย ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิตให้เข้ามาดูแลงานด้านความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่ามีการปฏิบัติงานบางส่วนไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย มีการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย ซึ่งได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต และส่งเรื่องให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมถึงสภามหาวิทยาลัยรังสิตดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
“เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีบุคคลโพสต์ข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก ‘เมืองเอก’ ซึ่งมีสมาชิกประมาณ 3,700 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านเมืองเอก ข้อความดังกล่าวทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นผม ซึ่งสร้างความเสียหายและเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
วันนี้จึงมาที่ บช.สอท. เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด” พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ กล่าว
ยืนยันข้อมูลไม่เป็นความจริง
พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ ยืนยันว่าข้อมูลที่ถูกนำไปโพสต์ไม่เป็นความจริง โดยปกติการติดตั้งกล้องวงจรปิดจะเป็นไปตามระเบียบ สามารถเข้าถึงได้จากฝ่ายตำรวจมหาวิทยาลัยและฝ่ายไอทีเท่านั้น และการกล่าวอ้างว่ามีการสะกดรอยบุคคลใดบุคคลหนึ่งก็ไม่เป็นความจริง กล้องวงจรปิดไม่ได้ถูกติดตั้งในพื้นที่ส่วนตัว เช่น ห้องน้ำ
สำหรับบุคคลที่กระทำผิดระเบียบภายในมหาวิทยาลัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ คาดว่าการโพสต์ข้อความดังกล่าวอาจเกิดจากความไม่พอใจของกลุ่มผู้ที่ถูกตรวจสอบ
“การติดตั้งกล้องวงจรปิดเป็นหน้าที่โดยตรงที่ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัย โดยมีทั้งตำรวจมหาวิทยาลัยและการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามระเบียบ เพื่อดูแลความปลอดภัยของนักศึกษาและผู้ที่เข้าออกมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามหรือเจาะจงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ อธิบายเพิ่มเติม
ส่วนประเด็นการโพสต์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือกระแสข่าววัดหรือไม่นั้น พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ เชื่อว่าไม่น่าจะใช่ แต่เชื่อว่าเป็นการโพสต์เพื่อสร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นตนเองกระทำการดังกล่าว เนื่องจากผู้โพสต์ใช้บัญชีอวตารที่สร้างขึ้นมาเพียง 10 ชั่วโมง และโพสต์เพียง 2 วัน “ผมเชื่อว่าเป็นการไปเหยียบตาปลาหรือขัดผลประโยชน์บางอย่าง ผมยืนยันว่าผมทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากอธิการบดี” เขากล่าวทิ้งท้าย
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ยืนยันว่า การโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย แม้ผู้โพสต์จะใช้บัญชีอวตารก็สามารถสืบสวนติดตามตัวจริงได้ไม่ยาก