วันศุกร์, กรกฎาคม 4, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมกสทช.ร่วมกับ กรมศุลฯ-สคบ.บก.น.9 ทลายโกดังนำเข้าวิทยุสื่อสารเถื่อนจากจีน ยึดของกลางมูลค่ารวม 50 ล้านบาท

กสทช.ร่วมกับ กรมศุลฯ-สคบ.บก.น.9 ทลายโกดังนำเข้าวิทยุสื่อสารเถื่อนจากจีน ยึดของกลางมูลค่ารวม 50 ล้านบาท

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

กสทช.ร่วมกับ กรมศุลฯ-สคบ.บก.น.9 ทลายโกดังนำเข้าวิทยุสื่อสารเถื่อนจากจีน ยึดของกลางมูลค่ารวม 50 ล้านบาท

 

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 3 ก.ค. นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร, กรมสรรพสามิต และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และ ตัวแทนกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 โดย พ.ต.ท.มงคล สังข์เพิ่ม สวป.สน.ท่าข้าม ร่วมกันนำหมายค้นของศาลอาญาธนบุรี ที่ 368-369-370-/2568 เข้าตรวจค้นโกดังวิทยุสื่อสารเถื่อน บริเวณบ้านเลขที่ 126 ซอยพระราม 2 ที่ 69 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ลักษณะเป็นอาคารพาณิชสูง 3 ชั้น ตรวจสอบบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 พบใช้เก็บของกลางวิทยุสื่อสาร หลายยี่ห้อ อาทิ ICOM , Motorola, Yeasu และ อีกหลายยี่ห้อ รวม จำนวน กว่า 20,000 เครื่อง นอกจากนี้ยังตรวจยึดแหล่งจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตปลอม อีก 12,000 เครื่อง รวมมูลค่าของกลางกว่า 50 ล้านบาท พร้อมจับกุม นายอัครวัชร์ จินดาวิภุษิต อายุ 45 ปี รับว่าเป็นผู้ดูแลวิทยุของกลาง ได้ที่บ้านหลังดังกล่าว

 

 

นายไตรรัตน์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีประชาชนนำวิทยุสื่อสารมาจดทะเบียนกับ กสทช. แต่ไม่สามารถจดทะเบียนได้ จึงตรวจสอบพบว่าเป็นเครื่องมือสื่อสารปลอม และได้ขยายผลจนทราบว่ามีการนำอุปกรณ์สื่อสารดังกล่าวมาจำหน่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์ในราคาที่ถูกผิดปกติ จากการตรวจสอบสินค้าที่ยึดได้พบว่าสินค้าทั้งหมดนำเข้ามาจากประเทศจีน โดยมีการปลอมแปลงใบการค้า เอกสารราชการ ตราครุฑ และใบนำเข้า

 

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่ารับซื้อวิทยุสื่อสารมาจากบริษัทอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยมีเอกสารรับส่งสินค้าเป็นหลักฐาน ซึ่งหลังจากนี้ กรมศุลกากรจะดำเนินการตรวจสอบบริษัทดังกล่าว และขยายผลดำเนินคดีกับบริษัทต้นทางที่นำเข้าจากประเทศจีน หากพบว่าบริษัทต้นทางไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากร ทั้งบริษัทต้นทางและบริษัทที่ถูกจับกุมในวันนี้ อาจมีความผิดฐานรับซื้อ รับไว้ ซึ่งของที่ลักลอบ หลีกเลี่ยง หรือไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ซึ่งมีโทษตามมาตรา 246 คือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 4 เท่าของราคาสินค้ารวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังพบว่าในเส้นทางการเงินทั้งหมด ถูกโอนไปยังปลายทางประเทศจีน โดยมีชาวจีนเป็นหุ้นส่วนกับผู้ต้องหา

 

ทั้งนี้ กสทช. และ สคบ. ได้ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอย่าหลงเชื่อสินค้าที่ราคาถูกเกินจริง โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่มีราคาสูง หากพบว่าวิทยุสื่อสารมีการจำหน่ายในราคาต่ำกว่า 10,000 บาท ให้สันนิษฐานว่าเป็นของปลอม ส่วนโทรศัพท์มือถือที่ขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น TikTok หรือ Shopee ในราคาต่ำกว่า 1,000 บาท ส่วนใหญ่จะเป็นของปลอมหรือของตกรุ่นที่ไม่สามารถรับสัญญาณ 5G ได้

 

เบื้องต้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสน.ท่าข้าม ดำเนินคดี พรบ.ที่เกี่ยวข้อง และขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป

Ad 1
Ad 2