ตำรวจ ตม. สนธิกำลังกระทรวงแรงงานและสาธารณสุข บุกทลายแก๊งจีนไลฟ์สดขายสินค้าปลอม ย่านรัชดาฯ พบเงินสะพัด 30 ล้านต่อวัน
วันที่ 12 มิถุนายน 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นำโดย พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 และ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้สนธิกำลังกับ กระทรวงแรงงาน นำโดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน, นายสนธยา กาลาศรี ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน, นายณฐกร จานเขื่อง นักวิชาการแรงงานชำนาญการ รักษาการตำแหน่งนักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ และ กระทรวงสาธารณสุข เข้าตรวจสอบร้านค้าภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดาฯ
สืบเนื่องจาก ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ามีชาวจีนไลฟ์สดขายสินค้าไทยที่ไม่ได้มาตรฐาน
จากการเข้าตรวจสอบร้านค้าบริเวณชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ซึ่งเป็นห้องกระจกขนาดใหญ่ พบภาพโปสเตอร์ขายสินค้าไทย เช่น แชมพูสมุนไพร สบู่สมุนไพร และมีป้ายระบุ “เฉพาะลูกค้า VIP เท่านั้น ขออภัยในความไม่สะดวก” ภายในร้านพบสินค้าที่มีโลโก้ภาษาไทยหลากหลายรูปแบบจัดวางจำหน่าย รวมถึงสตูดิโอและฉากต่างๆ สำหรับการไลฟ์สด
เจ้าหน้าที่พบชาวไทยและชาวจีนกำลังไลฟ์สดขายสินค้าที่มีฉลากภาษาไทย โดยเป็นการไลฟ์สดขายให้เฉพาะชาวจีนเท่านั้น คนไทยไม่สามารถเข้าชมได้ เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ทุกคนหยุดกิจกรรมและเข้าตรวจสอบ พบว่าชาวจีนส่วนใหญ่ถือวีซ่านักท่องเที่ยว จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดไว้เพื่อสอบสวน
พ.ต.ท.สุริยะ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่าพบชาวจีนไลฟ์สดขายสินค้าไทยที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยมีการไลฟ์สดผ่าน IP ประเทศจีน ซึ่งคนไทยไม่สามารถรับชมได้ แก๊งนี้ได้นำอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนมาไลฟ์สดเพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาดูและซื้อสินค้า ทำให้ชาวจีนจำนวนมากหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าไทยและสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก พบเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อวัน
ในส่วนของสินค้า ทางกระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สินค้าบางอย่างไม่พบเลขจดแจ้ง และบางอย่างมีเลขจดแจ้งไม่ตรงกับสินค้า หลังจากนี้จะนำสินค้าทั้งหมดไปตรวจสอบอย่างละเอียด หากพบว่ามีความผิดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับชาวจีน “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” และแจ้งข้อหากับเจ้าของร้าน “เป็นนายจ้างรับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 
