งงกันทั้งถนน…ชายแต่งกายคล้ายสงฆ์มีงูคล้องคอ ขี่ จยย.ตะเวนทั่วเมืองสัตหีบ จ.ชลบุรี
จนพลเมืองดี ผู้สื่อข่าวและกู้ภัยฯ ต้องขับรถไล่ตามจึงรู้ว่าไม่ใช่ สุดท้ายต้องขอให้ถอดเครื่องแบบออกเหตุทำเสื่อมเสียศาสนา ด้านเจ้าตัวอ้าง กำลังตามหาวิญญาณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยการใช้ลิ้นเป็นตัวสื่อสัมผัส
วันนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากชาวบ้านในเมืองสัตหีบ ให้ ช่วยเป็นกระบอกเสียงและตามหาความจริง กรณี พบบุคคลแต่งกายคล้ายพระภิกษุสงฆ์ ขี่รถจักรยานยนต์สภาพแปลกตาอยู่ในเมืองตลาดสัตหีบ จ.ชลบุรี สร้างความงุนงงให้ผู้พบเห็น และพากันตั้งคำถาม วาสิ่งที่พบเป็นเรื่องจริง หรือกำลังถ่ายทำภาพยนตร์
และเมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบก็ได้พบบุคคลมีลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง กำลังขี่รถอยู่บนถนนสุขุมวิท ช่วงระหว่างแยกเตาถ่าน-แยกบางเสร่ มุ่งหน้าเข้าเมืองพัทยา ซึ่งชายคนดังกล่าว สวมใส่อักสะ และนุ่งสบง ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายพระสงฆ์ อีกทั้งยังสวมหมวกกันน็อคเต็มใบจนทำให้ไม่เห็นใบหน้า
ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับขี่ยี่ ฮอนด้าเวฟ 125 สีแดง ซึ่งที่บริเวณด้านท้ายรถ ตกแต่งด้วยกิ่งไม้ ธงผ้ายันต์ ผ้าสามสี พวงมาลัยไหว้ตามศาลสภาพเก่า นอกจากนั้นบริเวณตะกร้าหน้ารถ ยังมีตุ๊กตาลูกเทพอีก 2 ตัว
ผู้สื่อข่าวจึงขับรถติดตามไปจนถึงบริเวณหน้าบ้านพักกรมสรรพวุธทหารเรือ โดยมีรถจักรยานยนต์ของ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ทราบชื่อ นายวิชา จินดานิล กู้ภัยสัตหีบนามเรียกขาน 142 และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมก ของพลเมืองดีขับรถประกบคู่ พร้อมขอความร่วมมือ ให้จอดรถ
แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งผู้สื่อข่าว เจ้าหน้าที่กู้ภัย และพลเมืองดีตกใจก็คือ บริเวณลำคอของชายคนดังกล่าวมี งูบอลไพธอน คล้อง เมื่อสอบถามจึงทราบว่าชายผู้นี้คือ นายประเสริฐ ลิ้นสัมผัสวิญญาณ อายุ 54 ปี ที่ยืนยันว่าตนเองไม่ใช่พระสงฆ์ แต่มีความชื่นชอบที่จะแต่งตัวเช่นนี้
ส่วนสิ่งของที่ผูกติดบริเวณท้ายรถคือ เครื่องรางของขลังที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และสาเหตุที่เดินทางมาปรากฏตัวอยู่ใน อ.สัตหีบ เพราะต้องการตามหาวิญญาณ และตามหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยใช้ลิ้นเป็นตัวสื่อสัมผัสวิญญาณ และยังบอกอีกว่าตนเองยังมีจุดหมายที่จะเดินทางไปในเขตตัวเมืองชลบุรี อีกด้วย กำลังมุ่งหน้าเดินทางต่อไปยังจังหวัดชลบุรี
ขณะที่ นายวิชา จินดานินทร์ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ บอกว่าได้พบชายคนดังกล่าวบริเวณชายหาดดงตาล ซึ่งในครั้งแรกคิดว่าเป็นพระสงฆ์ แต่สุดท้ายเมื่อรู้ว่าไม่ใช่จึงเกิดความไม่สบายใจ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอีกทั้งการนำสิ่งของมาผูกติดไว้บริเวณท้ายรถจักรยานยนต์ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายได้
สุดท้ายได้ขี่รถจักรยนต์ล่าตามรถของชายคนดังกล่าว และขอให้นำสิ่งของท้ายรถออกเพื่อความปลอดภัยทุกฝ่าย แต่เจ้าตัวไม่ยินยอมและยังยืนยันว่า หากเกิดอะไรขึ้นจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ส่วนการขอให้นำเครื่องแต่งกายพระสงฆ์ออก และขอให้สวมใส่ชุดธรรมดาเพราะถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เจ้าตัวก็ยินยอมถอดอังสะออกแต่โดยดี ก่อนจะขี่รถมุ่งหน้าไปยังเขตตัวเมืองชลบุรี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯกล่าว…