พ่อเมืองสุพรรณสั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี ( ชุดไกรสีห์ ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี ( มังกร 27 ) กวดขับจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังแพร่ระบาดขยายวงกว้างสู่กลุ่มวัยรุ่นนักเรียนนักศึกษา ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ได้ผู้ต้องหาพร้อมของกลางอื้อ
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี กลางดึกวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ภายใต้การสั่งการของนายกองเอก พิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พันเอกผ่านศึก อนันต์พงษ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรีนายกองโท วรวิทย์ ยอแสง ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบด้วย นายหมวดเอก ธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี
ร้อยโท คเณศ ลาภหลาย นำกำลังจับกุม นายพีรพล ขันตี อายุ 28 ปี อยู่ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมสูบและอุปกรณ์จำนวนมาก
นายหมวดเอก ธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ที่ให้กวดขับจับกุมยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งนายกองเอก พิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายกองโท วรวิทย์ ยอแสง ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี พันเอกผ่านศึก อนันต์พงษ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับการร้องเรียนว่าพื้นที่สุพรรณบุรี มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดและบุหรี่ไฟฟ้า ขยายเป็นวงกว้างกระจายสู่กลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน นักเรียนนักศึกษา โดยมีการเปิดขายรับออเดอร์ทางโซเชียล เฟสบุ๊ก จึงสั่งการมอบหมายให้ตนนำกำลังออกสืบสวนหาข้อมูลกระทั่งทราบว่า มีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจริงในพื้นที่อำเภอดอนเจดีย์
จึงวางแผนส่งสายลับทำการติดต่อล่อซื้อโดยนัดส่งมอบบุหรี่ไฟฟ้ากันที่โรงจอดรถ ตลาดเมืองทอง อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่จึงให้สายลับเข้าไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากพ่อค้าซึ่งขับรถกระบะมาจอดรออยู่เมื่อสายลับได้หลักฐานเป็นบุหรี่ไฟฟ้าแล้วเจ้าหน้าที่จึงทำการจู่โจมเข้าจับกุมพ่อค้าบุหรี่ไฟฟ้าได้คารถกระบะยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีขาวทะเบียน บธ 5032 อ่างทอง สอบถามทราบชื่อนายพีรพล ขันตี อายุ 28 ปี บ้านอยู่ตำบลดอนเจดีย์ ตรวจค้นในรถพบของกลางบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ส่วนควาบจำนวนมากอยู่ในกล่องวางอยู่ที่เบาะหลังและที่วางเท้าหน้าเบาะซ้าย
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอดูโทรศัพท์มือถือของนายพีรพล เพื่อจะดูข้อมูลนำไปขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ แต่นายพีรพล ขัดขืนไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เปิดดูโทรศัพท์ จนเกิดการยื้อแย่งโทรศัพท์กันขึ้นสุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องคุมตัวกลับไปสอบสวนที่กองร้อยบริการ อาสารักษาดินแดนจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อสอบสวนขยายผลและนับจำนวนของกลางพบว่าของกลาง ประกอบด้วย 1. บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมสูบแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 120 ชิ้น 2. น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 75 ชิ้น 3. หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา จำนวน 323 ชิ้น 4. สำเนาธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ จากการสอบสวนนายพีรพล ให้การว่าก่อนหน้าที่นี้ตนเคยมีหน้าร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่หลังจากรัฐบาลมีนโยบายเข้มงวดปราบปรามกวดขันจับกุมตนจึงปิดหน้าร้านแล้วหันไปขายในตลาดออนไลน์ทางเฟสบุ๊ก ส่วนตัวโดยจะรับเฉพาะกลุ่มที่รู้จักกัน ตนจะไม่ขายให้เด็ก และนักเรียน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเนื่องจากสายลับที่ล่อซื้ออายุ เพียง 18 ปีเท่านั้น
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาพีรพล ว่าเป็นผู้ขายหรือจัดหาด้วยประการใดๆ หรือเสนอ หรือชักชวนให้มีการขายให้บริการ หรือจัดหาด้วยประการใดๆ ซึ่งสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงิน หรือผลประโยชน์อย่างอื่นอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ลง 28 มกราคม 2558 อันเป็นความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 56/4 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ซึ่งเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 ประกอบบทเฉพาะกาลในมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ในชั้นจับกุมสอบถาม นายพีรพล ขันตี รับทราบสิทธิแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจับกุมนายพีรพล อยู่นั้น ได้มีวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามารอซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากันหลายคน สอบถามวัยรุ่นที่มาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าเล่าว่าเป็นลูกค้าของนายพีรพล มานานโดยจะสั่งซื้อบุหรี่ไฟฟ้าทางเฟสบุ๊ก ทักแชท ไปหานายพีรพล แล้วนัดมารับของกันที่จอดรถบริเวณตลาดเมืองทอง วันนี้ก็ฝ่าสายฝนมาซื้อ

ภัทรพล พรมพัก สุพรรณบุรี