เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สน.พญาไท ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกษร ผ.ก.ก. สน.พญาไท สั่งการ พ.ต.ท.ธีรภัทร คุปตานนท์ รอง ผ.ก.ก.สืบสวน สน.พญาไท พร้อมนัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. บช.ก. เข้าจับกุม นายทัศนรัชต์ งามเปรี่ยม หรือที่รู้จักกันในนาม “ไอ้ฝัน โจรนินจา” อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร พร้อมของกลางจำนวนมาก ภายในห้องเช่าเลขที่ 171/1 ถนนสี่แยกมหานาค แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
เปิดพฤติกรรม “ไอ้ฝัน” เดนคุก ตระเวนปีนบ้านก่อเหตุลักทรัพย์ การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากในพื้นที่ สน.พญาไท ได้เกิดเหตุลักทรัพย์บริเวณซอยอารีสัมพันธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท อย่างน้อย 3 ครั้ง จากทั้งหมด 14 ครั้ง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างมาก
ชุดจับกุมจึง ได้เร่งรัดติดตามแกะรอยคนร้าย จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายทัศนรัชต์ งามเปรี่ยม ซึ่งเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา และออกตระเวนก่อเหตุทันที
กระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายทัศนรัชต์ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าดังกล่าว และมีของกลางที่ได้จากการลักทรัพย์จำนวนมากซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.พญาไท จึงเดินทางไปตรวจสอบในบริเวณดังกล่าวและสอบถามพลเมืองดีจนแน่ใจว่าผู้ต้องหาพักอยู่ในห้องเช่าจริง เมื่อเดินทางไปถึงห้องพัก เจ้าหน้าที่พบนายทัศนรัชต์พร้อมของกลางซุกซ่อนอยู่ จึงได้เข้าจับกุมตัวทันที แม้จะไม่มีหมายจับ แต่เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่านายทัศนรัชต์เป็นผู้กระทำความผิด และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่สามารถขอหมายจับได้ทัน
จากการเข้าจับกุมครั้งนี้ สามารถยึดของกลางได้จำนวนมาก ซึ่งประกอบด้วย:
– ทรัพย์สินจากคดี สน.พญาไท (ประจำวันคดีที่ 21 ลงวันที่ 26 พ.ค. 68) กระเป๋านักเรียนโรงเรียนสามเสน สีดำ 1 ใบ และกระเป๋าผ้าสะพายข้าง สีเทา 1 ใบ
– ทรัพย์สินจากคดี สน.ทองหล่อ (ประจำวันคดีที่ 17 ลงวันที่ 28 พ.ค. 68) Mac book สีเทา 1 เครื่อง, บัตรของ Ms.Yulia Askhadulina และกระเป๋าสตางค์ สีดำ 1 ใบ พร้อมบัตรของ Mr.Jerald Russell Sullivan จำนวน 5 ใบ
– ทรัพย์สินจากคดี สน.พญาไท (ประจำวันคดีที่ 6 ลงวันที่ 1 มิ.ย. 68) Mac book พร้อมสายชาร์จ 1 เครื่อง, Airpods 1 เครื่อง และกระเป๋าสตางค์ ยี่ห้อ Hermes 1 ใบ
– ทรัพย์สินจากคดี สน.พญาไท (ประจำวันคดีที่ 17 ลงวันที่ 3 มิ.ย. 68): เหรียญหลวงพ่อเงิน จำนวน 6 องค์
– ชุดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในวันที่ 1 มิ.ย. 68: ผ้าคลุมหัวสีดำ, เสื้อคลุมแขนยาวสีเทา, กางเกงขาสั้นสีกรม, หมวกแก๊ปสีดำ, เสื้อแขนยาวสีแดง, รองเท้าแตะสีเทา, กระเป๋าเป้น้ำเงิน และถุงมือสีเทา 1 ข้าง
– เงินสด: จำนวน 4,680 บาท (พบภายในห้องขณะจับกุม)
สารภาพสิ้น! จะนำเงินไปตั้งตัวที่ศรีสะเกษ
ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งรายละเอียดความผิด ข้อกล่าวหา และสิทธิตามกฎหมายให้นายทัศนรัชต์ทราบ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามเบื้องต้น นายทัศนรัชต์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยทรัพย์สินที่ได้จะรวบรวมไว้รอไปขายทีเดียว และจะนำเงินที่ได้ไปประกอบอาชีพตั้งตัวที่บ้านเกิดจังหวัดศรีสะเกษ
การจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นการคลี่คลายคดีลักทรัพย์ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ และเป็นเครื่องเตือนใจให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการดูแลทรัพย์สินให้มากขึ้น
ล่าสุดยังมีรายงาน อีกว่า ผู้เสียหายอีกหลายราย ที่นายก่อเหตุไม่สำเร็จ ได้ประสาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม ในข้อหา บุกรุกเคหสถานในยามวิกาลอีกด้วย
รวบ “ไอ้ฝัน โจรนินจา” เดนคุก! ตระเวนปีนบ้าน ลักทรัพย์ยามวิกาล คาห้องเช่า ยึดของกลางอื้อ
เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันนี้ (6 มิ.ย. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สน.พญาไท ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกษร ผ.ก.ก. สน.พญาไท
สั่งการ พ.ต.ท.ธีรภัทร คุปตานนท์ รอง ผ.ก.ก.สืบสวน สน.พญาไท พร้อมนัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. บช.ก. เข้าจับกุม นายทัศนรัชต์ งามเปรี่ยม หรือที่รู้จักกันในนาม “ไอ้ฝัน โจรนินจา” อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร พร้อมของกลางจำนวนมาก ภายในห้องเช่าเลขที่ 171/1 ถนนสี่แยกมหานาค แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
เปิดพฤติกรรม “ไอ้ฝัน” เดนคุก ตระเวนปีนบ้านก่อเหตุลักทรัพย์
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากในพื้นที่ สน.พญาไท ได้เกิดเหตุลักทรัพย์บริเวณซอยอารีสัมพันธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท อย่างน้อย 3 ครั้ง จากทั้งหมด 14 ครั้ง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างมาก
ชุดจับกุมจึง ได้เร่งรัดติดตามแกะรอยคนร้าย จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายทัศนรัชต์ งามเปรี่ยม ซึ่งเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา และออกตระเวนก่อเหตุทันที
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายทัศนรัชต์ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าดังกล่าว และมีของกลางที่ได้จากการลักทรัพย์จำนวนมากซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.พญาไท จึงเดินทางไปตรวจสอบในบริเวณดังกล่าวและสอบถามพลเมืองดีจนแน่ใจว่าผู้ต้องหาพักอยู่ในห้องเช่าจริง เมื่อเดินทางไปถึงห้องพัก เจ้าหน้าที่พบนายทัศนรัชต์พร้อมของกลางซุกซ่อนอยู่ จึงได้เข้าจับกุมตัวทันที แม้จะไม่มีหมายจับ แต่เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่านายทัศนรัชต์เป็นผู้กระทำความผิด และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่สามารถขอหมายจับได้ทัน
จากการเข้าจับกุมครั้งนี้ สามารถยึดของกลางได้จำนวนมาก ซึ่งประกอบด้วย:
– ทรัพย์สินจากคดี สน.พญาไท (ประจำวันคดีที่ 21 ลงวันที่ 26 พ.ค. 68) กระเป๋านักเรียนโรงเรียนสามเสน สีดำ 1 ใบ และกระเป๋าผ้าสะพายข้าง สีเทา 1 ใบ
– ทรัพย์สินจากคดี สน.ทองหล่อ (ประจำวันคดีที่ 17 ลงวันที่ 28 พ.ค. 68) Mac book สีเทา 1 เครื่อง, บัตรของ Ms.Yulia Askhadulina และกระเป๋าสตางค์ สีดำ 1 ใบ พร้อมบัตรของ Mr.Jerald Russell Sullivan จำนวน 5 ใบ
– ทรัพย์สินจากคดี สน.พญาไท (ประจำวันคดีที่ 6 ลงวันที่ 1 มิ.ย. 68) Mac book พร้อมสายชาร์จ 1 เครื่อง, Airpods 1 เครื่อง และกระเป๋าสตางค์ ยี่ห้อ Hermes 1 ใบ
– ทรัพย์สินจากคดี สน.พญาไท (ประจำวันคดีที่ 17 ลงวันที่ 3 มิ.ย. 68): เหรียญหลวงพ่อเงิน จำนวน 6 องค์
– ชุดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในวันที่ 1 มิ.ย. 68: ผ้าคลุมหัวสีดำ, เสื้อคลุมแขนยาวสีเทา, กางเกงขาสั้นสีกรม, หมวกแก๊ปสีดำ, เสื้อแขนยาวสีแดง, รองเท้าแตะสีเทา, กระเป๋าเป้น้ำเงิน และถุงมือสีเทา 1 ข้าง
– เงินสด: จำนวน 4,680 บาท (พบภายในห้องขณะจับกุม)
สารภาพสิ้น! จะนำเงินไปตั้งตัวที่ศรีสะเกษ
ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งรายละเอียดความผิด ข้อกล่าวหา และสิทธิตามกฎหมายให้นายทัศนรัชต์ทราบ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามเบื้องต้น นายทัศนรัชต์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยทรัพย์สินที่ได้จะรวบรวมไว้รอไปขายทีเดียว และจะนำเงินที่ได้ไปประกอบอาชีพตั้งตัวที่บ้านเกิดจังหวัดศรีสะเกษ
การจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นการคลี่คลายคดีลักทรัพย์ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ และเป็นเครื่องเตือนใจให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการดูแลทรัพย์สินให้มากขึ้น ล่าสุดยังมีรายงาน อีกว่า ผู้เสียหายอีกหลายราย ที่นายก่อเหตุไม่สำเร็จ ได้ประสาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม ในข้อหา บุกรุกเคหสถานในยามวิกาลอีกด้วย
