หน้าแรกอาชญากรรมทลายแหล่งขายยาฆ่าแมลงอันตรายผ่านเฟซบุ๊ก พบสารคลอร์ไพริฟอส มูลค่ากว่า 2 แสนบาท เสี่ยงภัยสุขภาพเกษตรกร

ทลายแหล่งขายยาฆ่าแมลงอันตรายผ่านเฟซบุ๊ก พบสารคลอร์ไพริฟอส มูลค่ากว่า 2 แสนบาท เสี่ยงภัยสุขภาพเกษตรกร

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปคบ. นำโดย พ.ต.ท.พงษ์พนา กรีฑา สว.กก.2 บก.ปคบ. พร้อมกำลัง ชป.4 กก.2 บก.ปคบ. ร่วมกับ พนักงานเจ้าหน้าที่กลุ่มสารวัตรเกษตร สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขต 6 จังหวัดจันทบุรี นำโดย นายเทศกาล กิ่งแก้ว นักวิชาการเกษตรชำนาญการ

รวมกันจับกุม นายหนึ่ง (นามสมมุติ) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน

1. ห้ามผู้ใดผลิต นำเข้า หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย 2535 มาตรา 43 มาตรา 74

2. ห้ามผู้ใดผลิตหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม

พ.ร.บ.วัตถุอันตราย 2535 มาตรา 23 มาตรา 73

สถานที่เกิดเหตุ บ้านในพื้นที่ ม.1 ต.แสลง อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี

 

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่กลุ่มสารวัตรเกษตรจากสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขต 6 จังหวัดจันทบุรี ได้เข้าตรวจค้นบ้านในพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลแสลง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี หลังสืบทราบว่า มีการจำหน่ายวัตถุอันตรายผิดกฎหมายผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก ซึ่งเปิดเป็น กลุ่มสาธารณะ มีสมาชิกกว่า 95,000 คน โดยได้แสดงหมายค้นศาลจังหวัดจันทบุรี (ค.55/2568) เข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว และพบนายหนึ่ง (นามสมมุติ) เป็นผู้ครอบครองสถานที่ ผลการตรวจค้น พบวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 คือ สารคลอร์ไพริฟอส จำนวน 17 รายการ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 220,000 บาท ซึ่งสารคลอร์ไพริฟอส (Chlorpyrifos) เป็นสารกำจัดแมลงกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต ซึ่งเคยนิยมใช้ในพืชผัก ผลไม้ และธัญพืชหลายชนิด เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการฆ่าแมลงศัตรูพืชสูง แต่ในทางกลับกัน สารนี้ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทของมนุษย์และสัตว์อย่างรุนแรง ซึ่งกฎหมายประเทศไทยได้ห้ามใช้คลอร์ไพริฟอสในทางการเกษตร ตั้งแต่ปี 2563 โดยประกาศให้เป็น “วัตถุอันตรายชนิดที่ 4” และหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและจีนได้สั่งห้ามการใช้สารนี้โดยเด็ดขาด เนื่องจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันถึงผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องจนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกฎหมายต่อไป

Ad 1
Ad 2