ความคืบหน้าของลูกบ้านคอนโดโชคชัยร่วมมิตรที่ได้รับการช่วยเหลือจากทีม ชณทัตลุยครับ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ 399 ซอย วิภาวดีรังสิต 16/5 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จากความเดือดร้อนของลูกบ้านจำนวน 917 ห้อง หลายชีวิตที่ต้องทนทุกทรมารมาอยู่ 2 เดือนเศษ จนทีม ชณทัต ลุยครับ พร้อมด้วย ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงพลังงาน พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธรทวา พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาให้กับลูกบ้านคอนโดดังกล่าว เช่นด้านไฟฟ้า,น้ำประปา และลิฟท์ขนย้าย ซึ่งในอาคารส่วนใหญ่มีแต่ผู้สูงอายุ
คุณ ชณทัต ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าเช้านี้ตนได้เข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าครับได้ให้การช่วยเหลือด้านลิฟท์ขนส่ง เพื่อที่ผู้สูงอายุจะได้ขึ้นลงอย่างสะดวกและตอนนี้การไฟฟ้าได้ดำเนินการเปิดจ่ายใช้ไฟแก่ห้องต่างๆที่มีลูกบ้านพักอาศัย และดำเนินการเช็คระบบน้ำประปา ให้กลับมาใช้จ่ายได้อีกครั้ง โดยลูกบ้านดังกล่าวของคอนโด ได้ทยอยกลับเข้ามาพักอาศัย และต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่เข้ามาช่วยอธิบายการดำเนินการปรับเปลี่ยนแผนดำเนินการของนิติบุคคลอาคารชุดดังกล่าวและก็ต้องขอบคุณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงพลังงาน พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธรทวา พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่อยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุน แล้วก็ขอบคุณลูกบ้านทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ จากที่ลูกบ้านประสบปัญหามาประมาณ 2 เดือนนั้นเราเริ่มค่อยๆแก้ปัญหาทีละด้านให้คลี่คลายลงและสามารถให้ประชาชนเข้ามาพักอาศัยได้
ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน นาย สามารถ สามารถกุลเจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครสาขาจตุจักร ,ณภัทร นิติคุณธรรม หัวหน้าฝ่ายทะเบียนกรมที่ดินกรุงเทพมหานครพื้นที่เขตจตุจักร ,นายกฤติน ชุมวรฐายีนักวิชาการที่ดินสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครสาขาจตุจักร เล่าให้ทีมผู้สื่อข่าวฟังว่า ในสิ่งแรกตามอำนาจกฎหมายที่เรามี ต้องให้นิติบุคคลยื่นคำร้องมา ถ้าเรายังไม่ได้รับการยื่นคำร้องมาก็เป็นเรื่องยากครับ กระทรวงมหาดไทยได้ยื่นหนังสื่อมากับทางที่ดินทุกๆนิติบุคคลและคอนโดทุกที่ ให้สำรวจสภาพอาคารหรือคอนโดมิเนียมว่าอยู่ในการใช้งานหรือให้ผู้พักอาศัยเข้าพักอาศัยได้หรืออย่างไรแจ้งย้อนกลับมาและมีหลายที่ที่แจ้งกลับหลายแห่ง แล้วก็ยังมีบางอาคารที่ยังไม่ได้ตอบรับกลับมา และกรณีที่นิติบุคคลมีข้อโต้แย้งกับลูกบ้านนะครับ และส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกบ้านที่ขัดแย้งกับนิติบุคคล ก็จะทำหนังสือร้องเรียน ศูนย์ดำรงธรรมหรือที่ต่างๆและเขาก็ได้ส่งกลับมายังกรมที่ดิน เราก็เป็นสื่อการในการแก้ไข นำข้อโต้แย้งต่างๆมาตรวจสอบแล้วก็แจ้งให้กับทางนิติ แก้ไขปัญหาให้กับลูกบ้าน แต่ทางอำนาจบังคับของกรมทางที่ดิน ตามกระบวนกฎหมายอำนาจเราก็สามารถบอกกับทางนิติต้องดำเนินการตามนั้น และไกล่เกลี่ยให้กับลูกบ้านกับนิติให้คล้องจองไปในทางเดียวกันได้ แล้วก็ฝากบอกทางนิติคอนโดมิเนียมทุกที่เลยนะครับ ลูกบ้านได้ชำระเงินค่าส่วนกลาง อยู่อาศัยภายในอาคารนิติบุคคลก็ มีหน้าที่ที่จะต้องดูแล เอาใจใส่แล้วก็ช่วยเหลือ หากมีข้อบกพร่องหรือไม่ได้จริงๆ ก็แจ้งให้ลูกบ้านทราบ เราควรจะปกป้องลูกบ้าน เปลี่ยนเป็นกฎหมายปกครองก็คือผู้นำท้องถิ่นที่ให้ลูกบ้านอยู่อย่างมีความสุขและดำเนินการไปด้วยในทางเดียวกันครับ
ทั้งนี้ทาง เพทชณทัตลุยครับแล้วจัดการ ดำเนินการให้การเยียวยาลูกบ้านคอนโดมิเนียมดังกล่าวทั้งหมดและต่างพึงพอใจในสิ่งที่ตนได้รับ