อดีดพระลูกวัดสุดแสบ!!!ริเป็นโจรสบโอกาสเจ้าอาวาสเผลอแอบย่องงัดตู้บริจาคเงินวัดกลางวันแสกๆ
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 5 ก.ย 2567 สายตรวจ ต.นายางกลัก พร้อมฝ่ายปกครอง บ้านนายางกลัก ลงพื้นที่วัดนายางกลัก ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ภายหลังได้รับแจ้งจากที่พระปลัดอุเทน จิตตะวะโร เจ้าอาวาสวัดนายางกลัก แจ้งว่ามีคนร้ายเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ แอบย่องเข้าไปภายในศาลาวัด แล้วงัดกุญแจที่คล้องล๊อคตู้บริจาคเงินสมทบทุนร่วมจ่ายค่าน้ำค่าไฟ โดยลักเอาเงินบริจาคไปจนหมดตู้ เหตุเกิดเมื่อช่วงราวๆ 06.30 น.ของวันที่ 5 ก.ย.67 (ช่วงเช้าที่ผ่านมา)โดยทางพระปลัดอุเทน ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังก่อนว่า ในวันดังกล่าวตนและพาลูกวัดจะออกไปเดินบิณฑบาตรภายในหมู่บ้านจึงไม่มีใครอยู่ที่วัดหลังจากกลับจากบิณฑบาตตนเองก็ได้เดินไปตรวจดูที่ตู้บริจาคเพราะเคยเกิดเหตุคนร้ายมาแอบลักขโมยเงินในตู้บริจาคเป็นประจำจึงทราบว่าเงินในตู้บริจาคนั้นได้หายไปตนจึงเปิดกล้องวงจรปิดภายในวัด ดู ว่าจะเป็นโจรมาขโมยเงินวัด จึงได้รู้ว่ามีคนร้ายแอบเข้ามาขโมยเงินในตู้บริจาคโดยคนร้ายเป็นชายรูปร่างอ้วน สูงใหญ่ สวมเสื้อเเขนยาวสีฟ้า กางเกงขาสั้น สีกากี เดินเข้ามาทางประตูข้างด้านซ้ายของตัวอาคาร เมื่อเข้ามาแล้วก็หันซ้ายมองขวา จากนั้นจึงลงมือใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมางัดตู้บริจาค หยิบเงินใส่กระเป๋า ก่อนเดินหลบหนีไปอย่างใจเย็น
ขณะที่พระปลัดอุเทน เจ้าอาวาสวัดนายางกลัก กล่าวว่า วัดนี้เคยถูก นายกิตติศักดิ์ ปีจัตุรัส อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 2 ต.หนองย่างเสือ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี คาดว่าเคยก่อเหตุแอบขโมยเงินในตู้บริจาคมาแล้วนับ 10 กว่าครั้งเเล้ว แต่ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้จึงลงทุนยอมซื้อกล้องวงจรปิดมาติดไว้ตามจุดต่างๆของวัด เพียงไม่กี่วันเองก็สามารถจับภาพคนร้ายที่แอบมางัดแงะตู้บริจาคได้ โดยบุคคลที่เข้ามางัดตู้บริจาคของวัดเพื่อเอาเงิน ซึ้งนายกิตติศักดิ์ เคยเข้ามาบวช และ เคยมาเป็นเด็กและคอยเดินถืออาหารให้กับพระในวัดในช่วงเช้าที่ออกไปบิณฑบาตอยู่ประจำ จนมารู้ตัวเปิดกล้องวงจรปิดดูจึงได้รู้ว่าเป็นนายกิตติศักดิ์ ที่ฉกหยิบเอาเงินบริจาคในตู้ไปทั้งหมด ซึ่งน่าจะนับรวมกันแล้ว ราวๆกว่า 5,000 บาท แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จึงยอมลงทุนซื้อกล้องวงจรปิดมาคอยจับว่าใครเป็นคนขโมยเงินในตู้บริจาคไป และ มีการเฝ้าระวังให้เข้มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จึงขอยากจะฝากไปถึงวัดทุกวัดให้ระมัดระวังภัยเช่นนี้ เพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัดและทุกช่วงเวลา ด้วยคนร้ายสมัยนี้ไม่ใช่อาศัยแค่ตอนกลางคืนในการก่อเหตุเท่านั้น แต่กล้าที่จะลงมือทำในทุกช่วงเวลาที่สบโอกาสให้กระทำความผิด ขณะเดียวกันในส่วนของผู้ก่อเหตุนั้น ก็อยากจะฝากเตือนว่า ในทางพระพุทธศาสนา การกระทำเช่นนี้เป็นบาปอยากขอให้ลดละเลิกและอย่ากระทำอีกต่อไป
คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ
