เตือนภัยชายเร่ร่อนเดินหยิบพัสดุตามบ้าน ย่านสุขสวัสดิ์
วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เวลา 18.30 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุมีผู้ก่อเหตุขโมยของภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ภายในซอย สุขสวัสดิ์ 26 แล้วชาวบ้านได้ทำการล้อมจับขโมยคนดังกล่าวเอาไว้ได้แล้ว จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุ พบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ปากซอยแยกย่อยที่ 11 ซอยสุขสวัสดิ์ 26 ถนน สุขสวัสดิ์ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุพบชายสูงวัย 1 ราย อายุประมาณ 60 -65 ปี มีบาดแผลแตกที่หน้าผากเหนือคิ้วข้างขวามีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก และที่หางคิ้วข้างขวาก็มีบาดแผลแตก ที่จมูก มีเลือดไหลออกมาเช่นกัน การแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา กางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีเหลืองไม่สวมรองเท้า อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นภายในที่เกิดเหตุ
ผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งทราบต่อมาว่าก่อเหตุขโมยพัสดุห่อสีชมพูขนาดใหญ่ที่ไรเดอร์นำมาเสียบเอาไว้ที่หน้าบ้าน เลขที่ 89 / 67 ภายในหมู่บ้านดังกล่าว แล้วถูกชาวบ้านช่วยกันล้อมจับเอาไว้ได้แล้วระหว่างที่ชาวบ้านช่วยกันล้อมจับผู้ก่อเหตุได้ขัดขืนแล้วก็พยายามต่อสู้ก็เลยเกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้นจึงเป็นเหตุให้หัวขโมยคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บอย่างที่เห็นส่วนชาวบ้านปลอดภัยดีไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆจากเหตุการณ์ดังกล่าว แล้วจากตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบเอกสารบัตรประชาชนของหัวขโมยดังกล่าว รวมทั้งหัวขโมยดังกล่าวไม่ยอมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านช่วยกันถามชื่อ ถามที่อยู่ก็ไม่ยอมบอก พูดจาไม่รู้เรื่องทั้งๆที่พูดภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
และจากการสอบถาม นางสาว ศร อายุ 54 ปี เป็นชาวบ้านผู้ที่วิ่งตามขโมยคนดังกล่าวเป็นคนแรกบอกว่า พอเดินเข้ามาปุ๊บตนก็ไม่กล้าลงรถกลัวเห็นว่าเขาเดินเข้ามาในซอยตนก็คิดว่าเขาคงรู้จักใครข้างในนี้ ก็ยังไม่กล้าลงอีกเพราะว่ากลัวเขาเดินสวนกับตนแล้วเขาจะมาบีบคอตน เพราะดูเหมือนเขาจะไม่เต็มก็เลยนั่งอยู่ในรถพอเขาเดินออกมาอ่าวเมื่อกี้ไม่มีของแล้วทำไมตอนนี้หอบของออกมา ตนก็เลยคิดว่าสงสัยเป็นของตนเองแน่ๆ เพราะพัสดุมาบ่อยมาทุกวันก็เลยมองตามเขาพอเขาเดินผ่านรถของตนไป ตนก็เลยวิ่งมาตามเพื่อนบ้านให้ช่วยกันวิ่งตามชายคนดังกล่าวไปวิ่งไปจนถึงเกือบจะหน้าหมู่บ้านคิดว่าเขาจะขึ้นรถสองแถวแล้วแต่เขาไม่ขึ้น ตนก็ไปเจอมอเตอร์ไซค์รับจ้างเขาก็บอกว่าเขาจะช่วยแล้วเขาก็ขับไปปาดหน้าแล้วก็บอกกับหัวขโมยคนดังกล่าวว่าเอาของคืนมาไม่อย่างนั้นเด๋วตำรวจจับนะก็เลยได้ของคืนมาแล้วก็เอาไปเสียบเอาไว้ที่เดิม ตอนแรกตนนึกว่าเป็นของตนเอง เขาเป็นใครมาจากไหนไม่รู้อยู่ดีๆก็เขามาหยิบ บ้านนี้ไม่ใช่บ้านเขาแน่นอน น่าจะเป็นคนเร่ร่อน
และจากการสอบถาม นางสาว เพลิน อายุ 53 ปี ทำงานที่คลีนิครักษาสัตว์แห่งหนึ่งย่านพุทธบูชา และเป็นเจ้าของบ้านที่ถูกขโมยของด้วย กล่าวว่า ครั้งเเรกเลยนะที่ถูกขโมยของพี่ข้างบ้านเขาโทรศัพท์ไปบอกตน พอตนรับสายก็ตกใจอยู่เพราะมันไม่เคยหายปกติหมู่บ้านเราปลอดภัยวางของเอาไว้ตรงไหนก็ไม่หายที่จริงแล้วมันมีอาหารหมาวางอยู่อีกถุงนึงนะประมาณ 20 กิโล แต่น่าจะหนักก็เลยหิ้วไปไม่ได้เขาก็เลยเอาแต่ของที่มันเบาๆหยิบง่ายๆ ส่วนสินค้าที่ตนสั่งซื้อมาราคาอยู่ที่ประมาณ 400 บาท เป็นเสื้อผ้า ตนไม่เคยเห็นหน้าหัวขโมยคนนี้มาก่อน เขาน่าจะคิดว่าเป็นของมีค่าหยิบได้ก็หยิบเพราะว่าของมันน่าจะเสียบเอาไว้ตรงรั้วประตู ส่วนคนก่อเหตุตนยืนยันได้เลยว่าไม่เคยรู้จักกัน และไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนอย่างแน่นอน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไปสอบสวนเพิ่มเติ่มที่ สน.ราษฎร์บูรณะ และได้เชิญตัวผู้เสียหายพร้อมชาวบ้านไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน. ส่วนประชาชนบ้านไหนที่พัสดุที่ไรเดอร์นำมาเสียบเอาไว้หน้าบ้านแล้วหายไปถ้าคาดว่าเป็นฝีมือของชายคนดังกล่าวก็ให้นำหลักฐานจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านหรือพยานบุคลที่เห็นพฤติการณ์ก่อเหตุของชายคนดังกล่าวก็ได้ท่านสามารถมาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ทันที