หน้าแรกอาชญากรรมรวบเจ้าของคลินิกเถื่อน หลบหนีคดีนาน 8 ปี หลังฉีดยาผิดพลาดจนผู้ป่วยเสียชีวิต

รวบเจ้าของคลินิกเถื่อน หลบหนีคดีนาน 8 ปี หลังฉีดยาผิดพลาดจนผู้ป่วยเสียชีวิต

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

รวบเจ้าของคลินิกเถื่อน หลบหนีคดีนาน 8 ปี หลังฉีดยาผิดพลาดจนผู้ป่วยเสียชีวิต

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.จตุพร ติกแก้ว สว.กก.1 บก.ปพ., จ.ส.ต.วชิระ เชื้อกระโซ่,ส.ต.ท.อภิวัฒน์ วิมาเณ, ส.ต.ท.ธีรนันท์ แหล่งสนาม, ส.ต.ต.ภาณุวัฒน์ อุทัยเลิศ ผบ.หมู่ กก.1 บก.ปพ.

ร่วมกันจับกุม นายวิทยา ฯ อายุ 67 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 1066/2560 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ซึ่งต้องว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขายหรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพ เวชกรรมโดยไม่รับอนุญาต”

สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านสวนไม่ทราบบ้านเลขที่ ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2560 หญิงรายหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่าสามีของเธอมีอาการปวดที่ต้นแขนขวา และได้เข้ารับการรักษาที่คลินิกแห่งหนึ่งในซอยเทศบาลบางปู 1 ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นคลินิกของนายวิทยา โดยทางคลินิกแจ้งว่าเป็นเพียงอาการกล้ามเนื้ออักเสบและได้ทำการฉีดยาให้ 1 เข็ม หลังจากการรักษา อาการของสามีกลับทรุดลงอย่างรวดเร็ว มีอาการแขนขาอ่อนแรง เวียนศีรษะ จนต้องนอนให้น้ำเกลือที่คลินิก และได้รับยาเพื่อกลับไปรับประทานที่บ้าน แต่ในรุ่งเช้าอาการกลับหนักขึ้นจนกระทั่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในที่สุด เป็นเหตุให้ภรรยาสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิตของสามี ภรรยาผู้เสียชีวิตจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายหลังการรับแจ้งความ เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบคลินิกดังกล่าว พบว่ายังคงเปิดทำการตามปกติ และพบนายวิทยา ฯ ผู้ต้องหารายนี้ แสดงตัวเป็นเจ้าของคลินิก

จากการตรวจค้นภายในคลินิก เจ้าหน้าที่พบเครื่องมือแพทย์ เข็มฉีดยา ใบเวชทะเบียนคนไข้ ซึ่งปรากฏชื่อสามีของผู้ร้องเรียน และตัวยาที่ได้รับคือ Prednisone รวมถึงเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้น นายวิทยา ฯ ผู้ต้องหา ยอมรับว่าเป็นเจ้าของคลินิกจริง แต่ให้การปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่แพทย์ โดยอ้างว่าเคยทำงานในสถานพยาบาลมานานกว่า 10 ปี และลาออกมาเปิดคลินิกเอง โดยอ้างว่าปกติจะมีแพทย์หมุนเวียนมาให้บริการ แต่ในช่วงหลังแพทย์ไม่ได้เข้ามาทำงานเป็นเวลานานแล้ว นายวิทยา ฯ ยังอ้างว่าตนเองมีอาชีพหลักคือการขายเครื่องมือแพทย์และจัดรายการวิทยุ ภรรยาของผู้เสียชีวิตยืนยันว่า นายวิทยา ฯ เป็นผู้ตรวจอาการและฉีดยาให้กับสามี อีกทั้งยังเป็นคนจัดยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบจำนวน 3 ซอง และยาแก้แพ้อีก 1 ซองให้กับสามีไปรับประทาน

ภายใต้หลักฐานที่เจ้าหน้าที่พบและความขัดแย้งในคำให้การ นายวิทยา ฯจึงจำนนต่อหลักฐานและยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฉีดยาและจ่ายยาให้กับผู้เสียชีวิตจริง ซึ่งยังมีข้อมูลว่า คลินิกแห่งนี้เคยมีแพทย์ประจำจริง แต่แพทย์ได้แจ้งยกเลิกการปฏิบัติงานไปแล้วหลายเดือน แต่นายวิทยา ฯ ยังคงเปิดคลินิกให้บริการต่อไป อีกทั้งยังมีการตรวจสอบพบประวัติว่า นายวิทยา ฯ เคยถูกแจ้งข้อหาในลักษณะเดียวกัน คือ ไม่จัดให้มีแพทย์ประจำคลินิก มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้นได้มีการควบคุมตัว พร้อมสอบสวนเบื้องต้น นายวิทยา ฯ ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการสอบสวน แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อกับนายวิทยา ฯได้ ทำให้เชื่อได้ว่าผู้ต้องหามีเจตนาหลบหนีการดำเนินคดี พนักงานสอบสวนจึงได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดและขอศาลออกหมายจับ นายวิทยา ฯ ไว้
กระทั่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองกำกับการ 1 กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) สามารถสืบทราบว่า นายวิทยา ฯ ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด ก่อนนำตัวส่ง สภ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Ad 1
Ad 2