วันพฤหัสบดีที่ 24 เม.ย.68 ที่ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตร์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 และ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์บุกค้น 2 จุดในพื้นที่สงขลา รวบ 2 อดีตนักโทษยาเสพติด สั่งปืนเถื่อนออนไลน์ไว้พกติดตัว
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยชุด Cyber Guard
ของ บก.สอท.5 ได้พบเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนผิดกฎหมายบนโลกออนไลน์ จึงได้สืบสวนจน
พบความเชื่อมโยงไปยังสถานที่ที่คาดว่ามีอาวุธปืนผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ ในพื้นที่ จ.สงขลา จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมาย
กระทั่งช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 23 เม.ย.68 พ.ต.ท.คมสัน สมอ่อน สว.กก.4 บก.สอท.5 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดพร้อมด้วยหมายค้นจากศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2 จุด ดังนี้
จุดที่ 1 ห้องแถวหลังหนึ่งในซอย 2 สาครมงคล ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบเป็นห้องแถวชั้นเดียว พบนายธนาคาร อายุ 33 ปี เป็นผู้อาศัยและเป็นผู้ครอบครองบ้าน จากการตรวจค้น พบของกลางเป็นอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ จำนวน 1 กระบอก
และกระสุนปืนขนาด .38 Super จำนวน 63 นัด อยู่ภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ใน ครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน”
เบื้องต้น นายธนาคาร ยอมรับว่าของกลางที่พบทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยอ้างว่ารับจำนํามาในราคา 30,000 บาท ตั้งแต่ประมาณ 6 เดือนที่แล้ว จากเพื่อนชื่อ “บอย” ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ทราบเพียงว่าเป็นชาวจังหวัดพัทลุง โดยตนเองนั้นไม่ทราบว่าอาวุธปืนดังกล่าวมีทะเบียนหรือไม่
สำหรับ นายธนาคาร เคยตกเป็นผู้ต้องขังในคดียาเสพติดแล้วถูกจำคุก 6 ปี หลังพ้นโทษและได้รับการปล่อยตัว
ไม่นาน ก็ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์และบุกรุกเคหะสถานฯ ในพื้นที่
สภ.เมืองสงขลา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับและเข้าจับกุมในคดีดังกล่าวเมื่อกลางเดือน ธ.ค.67
ก่อนจะได้รับการประกันตัวออกมา โดยในวันที่ตำรวจไซเบอร์เข้าตรวจค้นจับกุม นายธนาคาร ก็เพิ่งกลับ
จากการสืบพยานศาลในคดีดังกล่าว นอกจากนี้ นายธนาคารยังเปิดเผยว่า ปกติตนเองจะพกอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา แต่วันนี้เป็นวันที่ต้องไปศาล จึงนำอาวุธปืนซุกซ่อนไว้ในบ้านไม่ได้พกติดตัวไปด้วย สุดท้ายก็ถูกตำรวจไซเบอร์บุกตรวจค้นจับกุมในที่สุด
จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.2 ต.บางเหรียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบเป็นห้องชั้นเดียว และมีขนําอยู่ข้างบ้าน พบนายสิทธิพงค์ อายุ 25 ปี
เป็นเจ้าของบ้านได้พักอยู่บนขนำ จากการตรวจบนขนำดังกล่าว ค้นพบของกลางเป็น อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติดัดแปลงจากปืนแบลงก์กัน ใช้ยิงกับกระสุนปืนจริงขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 4 นัด ซุกซ่อนอยู่ภายในขนําบริเวณที่นอน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้น นายสิทธิพงค์ ยอมรับว่าของกลางที่พบทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยอ้างว่าซื้อต่อมาจากผู้ค้าในออนไลน์
เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ในราคา 16,500 บาท พร้อมกระสุนปืนขนาด .380 จํานวนหนึ่งกล่อง (50นัด) ในราคา 2,700 บาท ไว้เพื่อป้องกันตัวเอง สำหรับ นายสิทธิพงค์ นั้น เคยตกเป็นผู้ต้องขังในคดียาเสพติดหลังพ้นโทษได้รับการปล่อยตัว ก็ได้สั่งซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนทางออนไลน์มาพกติดตัวตลอดกระทั่งถูกตำรวจไซเบอร์จับกุมในที่สุด
