หน้าแรกต่างประเทศผู้นำโลกร่วมไว้อาลัย หลัง'โป๊ปฟรานซิส'สิ้นพระชนม์อย่างสงบ ยกย่องพระสันตะปาปาพระองค์ที่266

ผู้นำโลกร่วมไว้อาลัย หลัง’โป๊ปฟรานซิส’สิ้นพระชนม์อย่างสงบ ยกย่องพระสันตะปาปาพระองค์ที่266

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

ผู้นำโลกร่วมไว้อาลัย หลัง’โป๊ปฟรานซิส’สิ้นพระชนม์อย่างสงบ ยกย่องพระสันตะปาปาพระองค์ที่266

วันที่ 22 เมษายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าหลังจากที่สำนักวาติกัน แถลงการณ์ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันที่สิ้นพระชนม์ลงอย่างสงบ ด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา โดยเหล่าผู้นำจากประเทศทั่วโลกต่างร่วมไว้อาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสหลังพระองค์เคยรักษาอาการประชวรจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่โรงพยาบาล

‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวยกย่องสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสว่า พระองค์เป็นคนที่รักโลกพพร้อมสั่งให้สถานที่ราชการของรัฐบาลทั่วประเทศลดธงครึ่งเสาเพื่อร่วมไว้อาลัยต่อการสูญเสียครั้งใหญ่ พร้อมโพสต์ข้อความผ่านทาง  Truth Social ระบุว่า “ขอให้โป๊ปฟรานซิสได้พักสงบ ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรพระองค์และทุกคนที่รักพระองค์”

ด้านอดีตผู้นำสหรัฐ ‘โจ ไบเดน’ ได้โพสต์ข้อความว่า “จิลล์และฉันเสียใจอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส พระองค์ไม่เหมือนใครที่เคยเสด็จมาก่อนพระองค์ สมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสจะถูกจดจำในฐานะผู้นำที่มีความสำคัญที่สุดคนหนึ่งในยุคสมัยของเรา และฉันรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้รู้จักพระองค์ เป็นเวลาหลายทศวรรษที่พระองค์ได้ทรงรับใช้ผู้ที่เปราะบางที่สุดทั่วอาร์เจนตินา และพันธกิจของพระองค์ในการรับใช้ผู้ยากไร้ก็ไม่เคยหยุดนิ่ง

ในฐานะสมเด็จพระสันตปาปา พระองค์ทรงเป็นศิษยาภิบาลที่เปี่ยมด้วยความรักและครูผู้ท้าทายซึ่งเข้าถึงศาสนาต่างๆ พระองค์ทรงบัญชาให้เราต่อสู้เพื่อสันติภาพและปกป้องโลกของเราจากวิกฤตการณ์สภาพอากาศ พระองค์ทรงสนับสนุนผู้ที่ไม่มีเสียงและไม่มีอำนาจ พระองค์ทรงทำให้ทุกคนรู้สึกยินดีต้อนรับและเป็นที่ประจักษ์แก่คริสตจักร พระองค์ทรงส่งเสริมความเสมอภาคและการยุติความยากจนและความทุกข์ทรมานทั่วโลก และเหนือสิ่งอื่นใด พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระสันตปาปาสำหรับทุกคน พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระสันตปาปาของประชาชน พระองค์เป็นแสงแห่งศรัทธา ความหวัง และความรัก”

ต่อมา’บารัค โอบามา’ ประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความผ่าน X “@BarackObama” ระบุข้อความว่า “สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเป็นผู้นำที่หาได้ยากที่ทำให้พวกเราอยากเป็นคนดีขึ้น ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและท่าทีของพระองค์ที่ทั้งเรียบง่ายและลึกซึ้ง เช่น การดูแลคนป่วย การดูแลคนไร้บ้าน การล้างเท้านักโทษเยาวชน พระองค์ทำให้เราหลุดพ้นจากความนิ่งนอนใจ และเตือนใจเราว่าเราทุกคนต่างมีพันธะทางศีลธรรมต่อพระเจ้าและต่อกันและกัน  มิเชลล์และฉันขอร่วมไว้อาลัยกับทุกคนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นคาทอลิกหรือไม่ใช่คาทอลิกก็ตาม ที่ได้รับความเข้มแข็งและแรงบันดาลใจจากแบบอย่างของพระสันตปาปา ขอให้เรายังคงฟังคำเรียกร้องของพระองค์ที่ว่า อย่าอยู่เฉยในเส้นทางแห่งความหวังที่มีชีวิตนี้”

เจ.ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อชาวคริสต์นับล้านทั่วโลกที่รักและเคารพในพระองค์ ผมรู้สึกดีใจที่ได้พบพระองค์เมื่อวานนี้ แม้ว่าพระองค์จะประชวรอย่างเห็นได้ชัด สิ่งหนึ่งที่ผมจะจดจำตลอดไปคือ บทเทศน์ของพระองค์ในช่วงโควิด มันช่างงดงามและทรงพลังจริงๆ

เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุว่า พระองค์อยู่เคียงข้างผู้ที่เปราะบางที่สุดมาโดยเสมอ ขณะที่ไอแซก เฮอร์ซอก ประธานาธิบดีอิสราเอล ระบุว่า พระองค์ทรงเป็นผู้มีความศรัทธาอย่างลึกซึ้งและมีความเมตตาอันไร้ขอบเขต

ขณะที่ว่าที่นายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมิร์ตซ์ของเยอรมนี โพสต์ข้อความทาง X ว่า “การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทำให้ผมรู้สึกเศร้าอย่างสุดซึ้ง พระองค์จะถูกจดจำในฐานะผู้ที่ทุ่มเทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อผู้เปราะบางที่สุด ความยุติธรรม และการปรองดอง”

เช่นเดียวกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อูร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน แสดงความอาลัยในแพลตฟอร์ม X “@vonderleyen” ระบุว่า “สมเด็จพระสันตะปาปา สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนนับล้าน ไม่เพียงแต่ในคริสตจักรคาทอลิก แต่ด้วยความถ่อมตนและความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่อผู้ด้อยโอกาสทั่วโลก”

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ออกมาโพสต์ข้อความทาง X ว่า “เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งกับการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปา พร้อมแสดงความเสียใจต่อคริสตศานิกชนทั่วโลก โดยกล่าวว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะถูกจดจำในฐานะผู้นำแห่งความเมตตา ความถ่อมตน และความกล้าหาญทางจิตวิญญาณตลอดไป”

ด้านเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน กล่าวว่า “ผมรู้สึกเสียใจต่อการจากไปของโป๊บฟรานซิส พระองค์ทรงอุทิศพระองค์เองเพื่อสันติภาพ ความยุติธรรมทางสังคมและผู้ที่เปราะบางที่สุด ทิ้งไว้ซึ่งมรดกอันยิ่งใหญ่ของพระองค์เสด็จสู่สุขติ”
Ad 1
Ad 2
pratipon47
pratipon47http://www.เรื่องจริงผ่านเลนส์.online
ผู้สื่อข่าวประจำกองบรรณาธิการ