เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 19 เมษายา 2568 ร.ต.อ.ชาย พลศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ในซอยสุขสวัสดิ์ 70 แยก 3 ม.11 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงได้ประสานรถน้ำดับเพลิงเทศบาลเมืองลัดหลวง จำนวน 3 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จุดเกิดเหตุเป็นซอยขนาดเล็ก ต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 50 เมตร อยู่ติดกับริมคลองระบายน้ำ ปลูกเป็นเพิงพักอาศัยติดกัน 3 หลัง ไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 11 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ห้องที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งซ้ายสุด ถูกเพลิงกำลังลุกไหม้ โดยมีชาวบ้านช่วยกันนำน้ำในคลองและถังดับเพลิง เพื่อมาสกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลาม จนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองลัดหลวงมาถึง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ทำให้มีเพิงพัก 1 ห้องเสียหายทั้งหมด และในที่เกิดเหตุพบ ขวดน้ำ แผ่นไม้ เสื้อผ้า และของเก่าอยู่เป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ น้องบอส อายุ 17 ปี และน้องปลาย อายุ 16 ปี ทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บจากการถูกเศษกระเบื้องบาดขณะช่วยกันดับเพลิง 
เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นทั้ง 2 คน แต่เจ้าตัวไม่ประสงค์ที่จะไปโรงพยาบาล ซึ่งขณะเกิดเหตุมีผู้ป่วยติดเตียง 2 คน ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ โดยมีวัยรุ่นและชาวบ้านช่วยกันนำตัวทั้ง 2 คน ออกมาได้โดยปลอดภัย โชคดีเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้เสียชีวิต
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เพิงพักทั้ง 3 หลัง มีคนอาศัยอยู่เพียง 2 หลัง ส่วนหลังที่เกิดไฟไหม้ขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมี นางสุนันทา เย็นลับ อายุ 32 ปี (อาชีพเก็บของเก่า) และ นายวร เย็นลับ อายุประมาณ 30 ปี (อาชีพเกี่ยวข้าว) อาศัยอยู่ แต่เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน นายวร เกิดอุบัติเหตุ และพักรักษาตัวอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนเมื่อ 3 วันก่อน นางสุนันทา ได้กลับไปหา นายวร ที่อยุธยาและยังไม่กลับมา ส่วนห้องด้านขวามี นายพัฒ คำสี อายุ 71 ปี ป่วยพิการอัมพาตครึ่งซีก นอนอยู่ในห้องเพียงคนเดียว และห้องตรงกลางมี ยายนี อายุประมาณ 80 ปี ป่วยติดเตียง นาง กัญจนา คำสี อายุ 62 ปี และหลานอีก 1 คน อาศัยอยู่ ด้านนางกัญจนา ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรดังอยู่ห้องที่เกิดเหตุ จึงได้เดินออกมาดูก็เห็นว่า มีไฟกำลังลุกไหม้อยู่ จึงได้ตะโกนร้องขอให้ชาวบ้านมาช่วยกันดับไฟ และพาตัวผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในห้องและหลานหนีออกไปด้วย จนมีชาวบ้านสามารถช่วยเหลือออกมาได้
นายเล็ก ผิวบาง อายุ 31 ปี เพื่อนบ้านที่ช่วยดับไฟ เล่าว่า ตนเองได้ยินเสียง คิดว่าปลั๊กไฟไหม้ ขณะนั่งอยู่บ้านพัก จากนั้นจึงได้ลุกขึ้นออกมาดูและพบว่า มีกลุ่มควันและเปลวไฟ จากนั้นตนเองและกลุ่มเพื่อนเพื่อน จึงได้นำน้ำในคลองช่วยกันสาด เพื่อระงับเหตุเพลิงไหม้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมา เพลิงจึงได้สงบลง ส่วนบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านไม้ลักษณะนำของเก่า เช่นขยะ ที่นอน มาเก็บไว้ ซึ่งปกติก็มีคนอาศัยอยู่
นายวีรภัทร เคนพันธ์ อายุ 19 ปี พลเมืองดีที่ช่วยตายายป่วยติดเตียงออกมา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้นั่งเล่นอยู่ใกล้เคียงบริเวณไฟไหม้ เพราะตนเองก็อาศัยอยู่ในชุมชนนี้ จากนั้นได้ยินคนในชุมชนตะโกนว่ามีไฟไหม้บ้าน จึงรีบมาดูและเห็นแสงไฟได้ลุกโหมไหม้แล้ว ตนเองและคนในชุมชน ได้กระโดดลงน้ำ และนำน้ำมาสาดเพื่อดับไฟ ขณะเดียวกัน ได้มีตาสูงอายุซึ่งนอนป่วยติดเตียงใกล้กับบ้านต้นเพลิง ตนและคนในชุมชน จึงได้เข้าไปช่วยกันอุ้มออกมา ซึ่งตนเองไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และไม่อยากให้เกิดกับทุกๆคน ไม่ว่าจะชีวิตหรือทรัพย์สิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ตนเองรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยคนในชุมชน
และช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก
นางกัญจนา คำสี อายุ 62 ปี แม่เจ้าของห้องที่เกิดเหตุ เล่าว่า เตือนเขาหลายรอบแล้ว ว่าขยะเยอะมาก ส่วนเจ้าของห้องไม่อยู่ ไปอยุธยา ไปดูสามี สามีเขาขาหัก ปกติอยู่กัน 3 คน อยู่กันมาหลายปีแล้ว ตรงนี้เป็นที่สาธารณะ มีคนใจดีมาช่วยปลูกบ้าน ให้ติดกัน 3 หลัง ตอนเกิดเหตุไม่รู้ว่าเกิดอะไร ได้ยินแต่เสียง ปุ ปุ แล้วแสงไฟสว่างวาบ ตอนเกิดเหตุเรียกทุกคนให้ออกจากห้อง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง
***********************
อัญมณี คงสินธ์ / เจริญพร นาคขำ จ.สมุทรปราการ
