เย็นวันที่14 มีค.68 ตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ได้รับแจ้งจากพ่อค้าขายหมูปิ้งหน้าโรงเรียนสอนขับรถดี-ไดน์ฟเวอร์ 304 ริมถนนสาย304 พบชายปั่นจักยานมาจาก จ.บุรีรัมย์จะไปหาลูกสาวที่ จ.ระยอง
จากการตรวจสอบชายวัยกลางคนยืนอยู่ข้างรถจักรยานปั่น 2 ล้อสีน้ำเงินที่ด้านหลังรถมีตระกล้าใส่ผ้าสีเขียวรัดอยู่ด้านท้ายรถ ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้โชว์บัตรประจำตัวประชาชนให้ดูและให้ดูสัมภาระที่อยู่ด้านท้ายรถจักรยานปั่น 2 ล้อ โดยบอกว่าในตะกร้าใบนี้มีหม้อหุงข้าวมีข้าวสารเล็กน้อย ผักกาด ปลาร้าใส่กระปุก มีเสื้อผ้า3-4ชุด และน้ำดื่มที่กรอกใส่ขวดติดรถมาไว้หุงข้าวกินระหว่างทาง ทราบชื่อนายสุธน ดวงลายทอง อายุ 51 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ 122 ม.7 ต.บ่านแร่ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ โดยพ่อค้าขายหมูปิ้งได้โทรศัพท์ไปหาลูกสาวของนายสุธนที่จดติดตัวไว้และได้พูดคุยกับลูกสาวของนายสุธน ซึ่งลูกสาวตกใจ ที่พ่อปั่นจักรยานจากบ้านจะมาหา ระยะทางไกลมากเป็นห่วงพ่อมากและโทรศัพท์ถูกตัดไป นายสุธนบอกว่าโทรศัพท์ลูกสาวเงินหมดติดต่อได้ จะได้ติดต่อกันในภายหลัง
นายสุธนกล่าวว่าบ้านเดิมอยู่จังหวัดสุรินทร์ได้แยกทางกับภรรยา แล้วได้ไปรับจ้างทำงานที่บุรีรัมย์ทำงานก่อสร้างรายวันกับเถ้าแก่ แต่ถูกโกงค่าแรงจึงตัดสินใจปั่นจักรยาน 2 ล้อจากบุรีรัมย์เพื่อที่จะไปหาลูกสาวที่จังหวัดระยอง โดยปั่นจักรยานออกจากเมืองบุรีรัมย์ระยะเวลา 2 อาทิตย์แล้ว ค่ำไหนนอนนั่นนอนที่พักริมทางมีคนสงสารให้ข้าวให้น้ำกินตามอัตภาพ เมื่อปั่นจักรยานมาถึงร้านหมูปิ้งริมถนนสาย 304 พ่อค้าหมูปิ้งได้สอบถามจึงบอกว่าตนเองจะปั่นจักรยานไปหาลูกสาวที่ระยองซึ่งปั่นจักรยานมาแล้ว 2 อาทิตย์ พ่อค้าร้านหมูปิ้งจึงโทรแจ้งตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ และได้ให้ข้าวเหนียวหมูปิ้งไป 1 ชุด ในเวลาต่อมา ร.ต.อ.ปฐมพร พาสุขฤทัยรัตน์ ตำรวจสายตรวจ สภ.ระเบาะไผ่ที่ได้รับแจ้งเหตุเดินทางมาตรวจสอบ และสอบถามรายละเอียดเบื้องต้นและได้พูดคุยกับลูกสาวของนายสุธนจนเข้าใจดีแล้ว โดยนายสุธนบอกว่าขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและพ่อค้าหมูปิ้ง ที่ให้การช่วยเหลือ ตนเองก็ขอขอบคุณทุกคนแต่ไม่อยากรบกวนจนเกินไป จะขอปั่นจักรยานต่อไปอีกสักระยะ หากมีศาลาที่พักริมทางจะนอนพักเอาแรง และจะเดินทางไปหาลูกสาวต่อไป
นายวันเฉลิม ศาลาน้อย พ่อค้าหมูปิ้งกล่าวว่าขณะที่กำลังขายหมูปิ้งอยู่ริมทาง เห็นนายสุธนปั่นจักรยานมาริมทางจึงเรียกเข้ามาสอบถาม พอรู้ว่าปั่นจักรยานมาจากบุรีรัมย์จึงให้ข้าวเหนียวหมูปิ้งไปกิน1ชุด และโทร.แจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือต่อไป