หน้าแรกอาชญากรรมกรมการปกครองดำเนินคดีคอนโดย่านประตูน้ำ ปล่อยนักท่องเที่ยวเช่ารายวัน  และจับโรงแรมเถื่อนย่านห้วยขวาง - สุทธิสาร อีก 3 แห่ง

กรมการปกครองดำเนินคดีคอนโดย่านประตูน้ำ ปล่อยนักท่องเที่ยวเช่ารายวัน  และจับโรงแรมเถื่อนย่านห้วยขวาง – สุทธิสาร อีก 3 แห่ง

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

กรมการปกครองดำเนินคดีคอนโดย่านประตูน้ำ ปล่อยนักท่องเที่ยวเช่ารายวัน

และจับโรงแรมเถื่อนย่านห้วยขวาง – สุทธิสาร อีก 3 แห่ง

 

ด้วยวันที่ 3 มีนาคม 2568 มีประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านประตูน้ำได้มาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม กรมการปกครอง ว่า ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมีผู้เจ้าของกรรมสิทธิ์บางราย

นำห้องชุดปล่อยเช่ารายวันให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผ่านแอปพลิเคชัน Airbnb โดยนักท่องเที่ยวฯ บางราย

มีพฤติกรรมที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เช่น สูบบุหรี่ริมระเบียง ทิ้งเศษบุหรี่ลงมาตกในระเบียงห้องของผู้อื่น

หรือทำให้ประกายไฟจากเศษบุหรี่เข้ามาให้ห้องของเจ้าของกรรมสิทธิ์รายอื่น และมีบุคคลภายนอกเข้ามาใช้พื้นที่ส่วนกลางจำนวนมาก รวมถึงการใช้ลิฟต์ที่มีจำนวนมากทำให้ลิฟต์ชำรุดอยู่ปล่อยครั้ง เป็นเหตุทำให้เจ้าของห้องชุดรู้สึกไม่ได้รับความปลอดภัย ตัวแทนของผู้อาศัยอยู่ที่คอนโดดังกล่าว จำนวน 5 คน จึงได้เดินทางมาร้องเรียน

ที่ศูนย์ดำรงธรรม กรมการปกครอง เพื่อให้เจ้าพนักงานเข้ามาช่วยเหลือและดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา

ความเดือดร้อนดังกล่าว

ซึ่งการนำห้องชุดมาปล่อยเช่ารายวันลักษณะดังกล่าว ถือเป็นการกระทำฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547นอกจากผู้ปล่อยห้องเช่าไม่ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ไม่มีการแจ้งทะเบียนผู้พัก หรือไม่แจ้งการพำนักของชาวต่างชาติต่อ ตม. เจ้าพนักงานก็ไม่สามารถเข้าตรวจสอบการประกอบกิจการได้ ซึ่งถือเป็นความผิด

ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 มาตรา 4, 15, และ 59 มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายให้พนักงานฝ่ายปกครองออกจัดระเบียบสังคมและป้องกันเหตุเดือดร้อนรำคาญดังกล่าว โดยให้ดำเนินคดีกับผู้ปล่อยห้องเช่ารายวันในลักษณะดังกล่าวโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ได้สืบทราบว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่นำห้องชุดปล่อยเช่ารายวันบางราย มีกลุ่มนายทุนต่างชาติมาถือครองหรือใช้ระบบ Nominee ซึ่งฝ่าฝืนกฎหมายอีกด้วย ทั้งนี้

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง

จึงได้สั่งการให้สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว

โดยทันที

ในการนี้ เจ้าพนักงานจึงได้แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เข้าแชทคุยกับนายโยชิ (นามแฝง) ซึ่งได้ประกาศ

นำห้องชุดมาปล่อยเช่า ในเว็บไซต์ airbnb จำนวน 20 – 30 ห้อง เจ้าพนักงานจึงให้สายลับได้ทำการจอง

เพื่อขอเช่าห้องพักจำนวน 2 ห้อง คือ ห้องหมายเลข 1001 และหมายเลข 914 ซึ่งอยู่ในอาคารเดียวกัน ในวันที่

5 มีนาคม 2568 เป็นเวลา 1 คืน ในราคาห้องละ 82.40 USD

วันนี้ 5 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 14.00 นาฬิกา เจ้าพนักงานได้ให้สายลับเข้าไปติดต่อเพื่อขอเข้าพักห้องเลขที่ 1001 และหมายเลข 914 จำนวน 2 ห้อง ซึ่งอยู่ในอาคารเดียวกัน ที่ได้จองไว้ดังกล่าว โดยมีนายเอ (ปกปิดชื่อ) มาแสดงตัว และนำคีย์การ์ดมาให้ จากนั้นได้พาสายลับไปเปิดห้อง เมื่อสายลับได้เข้าพักแล้ว โดยสภาพห้องพักมีลักษณะเหมือนห้องพักของโรงแรมทั่วไปทุกประการ จึงถือว่าครบองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ. โรงแรมฯ มาตรา 4, 15, และ 59 เจ้าพนักงานนำโดย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญชาศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน นายพิพัฒน์ยชญ์ วัชฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนกำกับและตรวจสอบ และนายสานุพัฐ เด่นธรรม ผู้อำนวยการส่วนการอนุญาตโรงแรมและกฎหมายสถานบริการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักการสอบสวนและนิติการ จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ

จากการตรวจสอบได้สอบถามขยายผลจาก นายเอ (ปกปิดชื่อ) ผู้นำกุญแจมามอบให้สายลับ ทราบว่าได้รับคำสั่งจาก โยชิ (นามแฝง) ผู้ลงประกาศนำห้องชุดจากเจ้าของห้องมาปล่อยเช่าในเว็บไซต์ Airbnb เพื่อให้นำเอากุญแจไปมอบให้ผู้ขอเช่าห้องพัก และพาไปเปิดห้องพัก และจากการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อระหว่างโยชิ (นามแฝง) และ นายเอ (ปกปิดชื่อ) ปรากฏชื่อของ นางสาวบี (ปกปิดชื่อ) ซึ่งเจ้าพนักงานจะขยายผลต่อไป นอกจากนี้ ยังพบกุญแจห้องพักหมายเลขอื่นอีก จำนวน 3 ห้อง ในกระเป๋าของ นายเอ (ปกปิดชื่อ) จากนั้น

เจ้าพนักงานได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับ โยชิ (นามแฝง) หรือ นางสาวบี (ปกปิดชื่อ) ในความผิดฐานประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ. โรงแรมฯ มาตรา 4, 15, และ 59 ต่อพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

และในวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 14.00 นาฬิกา อธิบดีกรมการปกครองได้สั่งการให้เจ้าพนักงานจากสำนักการสอบสวนและนิติการ นำโดย นายรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ นายชนะ ชุ่มช่วง ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนคดีอาญา เข้าตรวจสอบสถานที่พักที่ให้บริการห้องพักรายวัน ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ห้วยขวาง-สุทธิสาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีน

มาพักอาศัยเป็นจำนวนมาก เป็นแหล่งมั่วสุมและมีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำการกระทำผิดต่อกฎหมาย รวมถึงการก่ออาชญากรรม โดยเจ้าพนักงานได้ตรวจพบสถานที่พักรายวันไม่มีใบอนุญาตประกอบโรงแรม จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ The Athena เปิดให้บริการห้องพักรายเดือน -รายวัน จำนวน 53 ห้อง, The Oasis มีห้องพักจำนวน 120 ห้อง เปิดให้บริการห้องพักรายเดือน -รายวัน จำนวน 40 ห้อง และ Chang เปิดให้บริการห้องพักรายเดือน -รายวัน

มีห้องพักจำนวน 98 ห้อง ที่ดำเนินการประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้อนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 มาตรา 4, 15, และ 59 จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบ จับกุม และร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร

เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการว่า ต่อไปนี้จะมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด อย่างต่อเนื่องและจริงจังทั่วประเทศ ซึ่งอธิบดีกรมการปกครองได้รับข้อสั่งการและวางมาตรการแก้ไขปัญหาการนำคอนโด

ปล่อยเช่ารายวัน โดยได้กำหนดมาตรการเร่งด่วน เช่น บูรณาการบังคับใช้กฎหมายกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

แจ้งประชาสัมพันธ์ผู้ให้บริการห้องพักทราบและปฏิบัติตามกฎหมายโรงแรม และกำชับนิติบุคคลอาคารชุดสอดส่องดูแลไม่ให้มีการกระทำความผิดในอาคารชุด พร้อมสร้างความรับรู้ข้อห้ามปล่อยเช่าคอนโดรายวันผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ของจังหวัดและอำเภอ นอกจากนี้ ในระยะต่อไปจะดำเนินการศึกษาและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากท่านใดพบการกระทำความผิดในลักษณะการนำสถานที่พักอื่นใดที่ไม่ใช่โรงแรม หรือไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม สามารถแจ้งเบาะแสผ่าน ศูนย์ดำรงธรรมกรมการปกครอง ได้ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

Ad 1
Ad 2