บริเวณสวนองุ่น บ้านวังช้าง ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ของนายสุบรรณ เสาโกมุท อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 11 บ้านวังช้าง ต.นายางกลัก
ซึ่งเดิมก็เป็นชาวไร่ชาวสวนอยู่แล้วซึ่งปกติทั่วไปก็จะทำปลูกมันสำปะหลังและข้าวโพด เขตบางส่วนเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับบ้านพักประมาณ 1 ไร่ จึงปรับปรับเปลี่ยนพื้นที่หันมาปลูก องุ่น ด้วยความรักธรรมชาติและชื่นชอบในรสชาติขององุ่น จึงได้ศึกษาการเกี่ยวกับข้อมูลการปลูกองุ่นอย่างจริงจังและพัฒนาพื้นที่สวนติดกับบ้านพัก พัฒนาสายพันธุ์มากว่า 5 ปี เป็นทำให้แต่ละสายพันธุ์ผลผลิตลูกใหญ่ รสชาติหวานกรอบ อร่อย ถูกใจ จึงตัดสินใจขยายแปลงปลูกเพิ่มเติม และมีการดูแลพิถีพิถันรายการควบคุมคุณภาพน้ำ และ ปุ๋ย ทำให้ผลผลิต องุ่น มีคุณภาพสูงประกอบกับปลูกแบบปลอดภัย เว้นการให้ปุ๋ยในช่วงก่อนที่จะตัดขายจำหน่าย จึงมั่นใจปลอดภัยจากสารเคมี
เชิญชวนนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมและชิมผลองุ่น สดๆกันในสวน โดย เพียงกิโลกรัมละ 200 ถึง 250 บาทเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะมีผลองุ่นให้ได้ชิมจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ ซึ่งในอนาคตยังมีแผนต่อยอดผลักดันสวนองุ่นแห่งนี้เป็นเป็นสวนเรียนรู้เชิงเกษตร และเป็นความรู้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้านการเกษตรในชุมชนด้วย
จากการสอบถามนางสุพิน เสาโกมุท อายุ 57 ปี ภรรยาของนายสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของสวนองุ่น หมู่ที่ 11 บ้านวังช้าง ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ที่สวนแห่งนี้เน้นปลูกองุ่นสายพันธุ์จากต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าแหล่งที่มาก็มีทั้งจากอิสราเอล รวมไปถึงแหล่งพันธุ์อื่นๆ ที่ขึ้นชื่อด้วย รวมกันแล้วในช่วงแรกมีมากกว่า 6 สายพันธุ์ ประกอบด้วย ไชน์มัสแคท แบล็คโฮป ไวท์มะละกา สการ์ล็อตต้า ซุปเปอร์สวีท นิ้วมือแม่มด ที่นำมาปลูกทดสอบดู และมีครบทั้ง องุ่นแดง, องุ่นดำ และองุ่นเขียว ซึ่งแต่ละสายพันธุ์นั้นมีชื่อเสียงตามที่ตลาดมีความนิยมกันอยู่ ปลูกไปก็เรียนรู้ไปจากนิสัยของพืชที่ต่างสายพันธุ์กันให้ผลเป็นอย่างไรบ้าง จนพบว่าบางพันธุ์ไม่สามารถผลิต (เอาลูก) ได้ เพราะสภาพอากาศไม่เหมาะกัน แต่ว่าสำหรับพันธุ์ที่ทำได้ก็ให้ผลผลิตที่ดี เป็นองุ่นนอกไร้เมล็ด รสชาติหวานกรอบ ที่ถูกปากของคนไทยแน่นอน
คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ