หน้าแรกภัยพิบัติปภ. ประสาน 67 จังหวัด เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 23 – 25 ก.พ....

ปภ. ประสาน 67 จังหวัด เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 23 – 25 ก.พ. 68 กำชับจังหวัดเสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

 ปภ. ประสาน 67 จังหวัด เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 23 – 25 ก.พ. 68 กำชับจังหวัดเสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

วันที่ 20 ก.พ. 68 เวลา 18.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 23 – 25 กุมภาพันธ์ 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง ตลอดจนเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (32/2568) ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้

ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้มีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตกบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 23 – 25 กุมภาพันธ์ 2568 ดังนี้

📍สถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร

📍สถานการณ์คลื่นลมแรง

– ภาคใต้ จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ไชยา ท่าชนะ ท่าฉาง พุนพิน ดอนสัก กาญจนดิษฐ์ เกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน) นครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล ท่าศาลา ปากพนัง และอำเภอหัวไทร) สงขลา (อำเภอเมืองสงขลา ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร จะนะ และอำเภอเทพา) ปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี หนองจิก ยะหริ่ง ปะนาเระ สายบุรี และอำเภอไม้แก่น) และจังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอตากใบ)

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นทีเสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศอย่างใกล้ชิด แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์ล่วงหน้า จัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีที่มีสถานการณ์ภัยเกิดขึ้นในพื้นที่ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและวิธีการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์และการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า ส่วนเกษตรกรในพื้นที่ขอให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบังเพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังเคลื่นลมแรงนั้น กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสาน 5 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ให้ออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณ (ธง) แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเล และแจ้งนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำทะเลในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด สำหรับการเดินเรือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือให้แก่ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหากสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นให้จังหวัดพิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด

ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด  โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป.

อาจเป็นรูปภาพของ แผนที่ และ ข้อความพูดว่า "กรมป้องกันและบรรเทาสารารณภัย Department of Disaster Prevention and Mitigation ሀብ. ประสาน 67 จังหวัด ปภ. เฝ้าระวังสถานการณ์ฝ่นฟ้าคะนอง นอง สถานก ลมกระโชกแรง และคลั่นลมแรง ช่วงวันที่ 23 23- 25 ก.พ. 68 กำขับจังหวัดเสี่ยงภัยเฝ้าระวัง หวัด และเตรียมพร้อมรัมือสถานการณ์ ร้อ รับมือ ารณ์ LINE @1784DDPM 1784 www.dsaster.go.th f กรมป้อมทันแสะบรรเทาสธารณถ์่ย @DOPMNews"

Ad 1
Ad 2
pratipon47
pratipon47http://www.เรื่องจริงผ่านเลนส์.online
ผู้สื่อข่าวประจำกองบรรณาธิการ