หน้าแรกพระราชสำนักองคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทาน ใน “โครงการสืบสานพระราชปณิธานงานโครงการหลวง” และประชุมติดตามการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก

องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทาน ใน “โครงการสืบสานพระราชปณิธานงานโครงการหลวง” และประชุมติดตามการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทาน ใน “โครงการสืบสานพระราชปณิธานงานโครงการหลวง” และประชุมติดตามการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก
วันนี้(10 ก.พ.68) เวลา 09.00 น. พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เลขาธิการ และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เดินทางไปยังศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ตำบลแม่ตื่น อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก เพื่อเชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการสืบสานพระราชปณิธานงานโครงการหลวง มอบแก่ผู้ปฏิบัติงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ เป็นแห่งที่ 8 ตามแผนปฏิบัติงาน
โดย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก มอบหมายให้ นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในพิธี มีผู้นำชุมชน สมาชิกเกษตรกร และเจ้าหน้าที่โครงการหลวงเลอตอ เข้ารับสิ่งของพระราชทาน รวมจำนวนทั้งสิ้น 200 คน
พร้อมกันนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสความห่วงใยและความปรารถนาดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่ สร้างความปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณแก่ประชาชนในชุมชน อย่างหาที่สุดมิได้
ในวันเดียวกัน องคมนตรี ได้ประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ร่วมกับส่วนราชการจังหวัดตาก ผู้แทนจากกระทรวง กรม และหน่วยงานส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ณ อาคารภักดีแผ่นดิน 66
โดยปัจจุบัน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ รับผิดชอบชุมชนชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอ กว่า 7,000 คน ใน 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน 25 หย่อมบ้าน จากปัญหาความยากจน การเดินทางยากลำบาก ห่างไกลความเจริญ สภาพแวดล้อมโดยทั่วไปแห้งแล้ง มีการบุกรุกขยายพื้นที่ป่าเพื่อปลูกข้าวโพด และเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่นแหล่งใหญ่ของประเทศ


ปัจจุบันได้รับโอกาส เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยมูลนิธิโครงการหลวง ได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ในปลายปีพุทธศักราช 2559 ตั้งขึ้นเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแห่งที่ 39 นำทางโครงการหลวงโมเดล ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปดำเนินการ โดยมีแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่น ความยากจน รวมทั้งการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และถูกต้องตามกฎหมาย ประสานหน่วยงานภาครัฐร่วมดำเนินการ โดยเริ่มต้นจากการปรับปรุงเส้นทางคมนาคม ไฟฟ้า ระบบชลประทาน และพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตร ไปพร้อม ๆ กับการสร้างความเข้าใจในการทำอาชีพทดแทน คัดเลือกพันธุ์พืชที่เหมาะสม และเริ่มส่งเสริมการผลิตพืชปลอดภัย
จากการพัฒนาย่างเข้าสู่ปีที่ 9 ได้นำมาสู่ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ พื้นที่ปลูกฝิ่นลดลง มีการจัดระเบียบการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ ไม่ขัดต่อกฎหมาย แยกส่วนที่เป็นป่า และพื้นที่เพาะปลูกออกจากกัน ฟื้นฟูป่าส่วนที่เสื่อมโทรม ทำให้พื้นที่บางส่วนเปลี่ยนจากเขาหัวโล้นไปสู่พื้นที่สีเขียว ด้วยการปลูกป่าภายใต้โครงการสวมหมวกให้ดอย และโครงการป่าชาวบ้านตามแนวพระราชดำริ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ในพื้นที่เกษตรได้จัดทำแปลงในระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ใช้โรงเรือนเพื่อลดพื้นที่ ส่งเสริมอาชีพการปลูกพืชผัก ไม้ผล พืชไร่ และกาแฟ บนพื้นฐานหลักวิชาการ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้มาตรฐานอาหารปลอดภัยเพื่อสร้างรายได้ทดแทนฝิ่นแก่เกษตรกรสมาชิก ส่งเสริมการรวมกลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี และกลุ่มเกษตรกร มุ่งสู่การเป็นศูนย์สาธิตการปลูกพืชทางเลือกแบบโครงการหลวง เพื่อเป็นตัวอย่างเกษตรกร นักเรียน เยาวชน และประชาชนทั่วไปในพื้นที่
จากนั้น องคมนตรี ได้เดินทางต่อไปยังบ้านจ่อคี ตำบลแม่หละ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก เพื่อติดตามความก้าวหน้าในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล ส่งเสริมการดำเนินงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีการเจาะบ่อน้ำบาดาล ก่อสร้างระบบประปา พร้อมระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่มสะอาด ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมทั้งติดตามพื้นที่ก่อสร้างโรงงานแปรรูปมะข้ามป้อม ไม้ท้องถิ่น และไม้สร้างป่า ที่นำไปส่งเสริมปลูกในโครงการสวมหมวกให้ดอย เพื่อเป็นการรองรับผลผลิตทางการเกษตร จึงได้นำเครื่องอบแห้งระบบถาดหมุน ที่มูลนิธิโครงการหลวงได้ร่วมวิจัยกับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาขยายผลแก้ไขปัญหาผลผลิตที่มีจำนวนมาก และไม่ได้มาตรฐาน ทั้งมะขามป้อม เสาวรส และผัก
โดยขณะนี้ กลุ่มวิสาหกิจแปรรูปผลผลิตบ้านเลอตอ ได้นำมะขามป้อมมาทำผลิตภัณฑ์ กาแฟมะขามป้อม และมะขามป้อมดริป ออกจำหน่ายเพื่อทดสอบตลาด นับเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต และช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรในพื้นที่ อีกทางหนึ่ง…


ภาพ/ข่าว : สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.ตาก

Ad 1
Ad 2