วันอังคาร, สิงหาคม 12, 2025
หน้าแรกภูมิภาคผบช.ภ.3 ตรวจพื้นที่แนวชายแดนจ.อุบลฯ ประชุมแก้ไขปัญหายาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

ผบช.ภ.3 ตรวจพื้นที่แนวชายแดนจ.อุบลฯ ประชุมแก้ไขปัญหายาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

ผบช.ภ.3 ตรวจพื้นที่แนวชายแดนจ.อุบลฯ ประชุมแก้ไขปัญหายาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

วันนี้ (23 ม.ค.68)  เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 เดินทางไปตรวจพื้นที่แนวชายแดนในเขตพื้นที่ สภ.ช่องเม็ก ภ.จว.อุบลราชธานี และเป็นประธานการประชุมบูรณาการเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดน โดยมี พล.ต.ต.วิวัฒน์ สีลาเขตต์ รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ฯ รรท.รอง ผบช.ภ.3, น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 7 จังหวัดอุบลราชธานี, รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี, หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรในสังกัด ภ.จว.อุบลราชธานี, ผู้แทนจาก ตม.จว.อุบลราชธานี, ตชด.226, ตำรวจท่องเที่ยว, อำเภอสิรินธร, ด่านศุลากรช่องเม็ก, ปปส.ภาค 3, สนง.ขนส่งผู้โดยสารช่องเม็ก,สรรพสามิตจังหวัดอุบลราชธานี, กกล.สุรนารี, ร้อย ทพ.2301ร่วมประชุมและหารือแนวทางแก้ไขปัญหา ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารด่านศุลกากรช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี

จากนั้นเวลา 12.30 น . เดินทางไปตรวจเยี่ยม มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับข้าราชการตำรวจ สภ.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และได้รับทราบการรายงาน มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมตามแนวชายแดน ผลการปฏิบัติ การตรวจค้นจับกุม การสอบสวนดำเนินคดี ในเขตพื้นที่ ภ.จว.อุบลราชธานี และ สภ.ช่องเม็ก จึงได้กำชับการปฏิบัติ ดังนี้

1.ให้มีการบูรณาการด้านการข่าว ของทุกหน่วยที่ทำงานในพื้นที่ แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน จัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ และปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ  2.ให้ทำการสืบสวนระบุเป้าหมายบุคคลที่มีพฤติการณ์กระทำผิดในลักษณะลักลอบผ่านเข้าออกชายแดน ทั้งช่องทางปกติ และช่องทางธรรมชาติ เพื่อกระทำการผิดกฎหมาย โดยเน้นการลักลอบขนคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การลักลอบขนอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติดให้โทษ สินค้าหลีกเลี่ยงภาษี รถยนต์ รถจักยานยนต์ที่ผิดกฎหมาย ให้มีการจับกุมอย่างจริงจังเห็นผลเป็นรูปธรรม  3.ให้จัดชุดสืบสวนติดตามพฤติการณ์เชิงลึก บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และให้มีการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย จับกุมการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท เมื่อมีการจับกุมดำเนินคดี ให้มีการสอบสวนขยายผล หากพบว่าเป็นการกระทำผิดที่เป็นขบวนการ ให้นำกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้

4.ในการสอบสวนคดี ให้มีการประสานงานกันเรื่องข้อกฎหมายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายเกี่ยวกับศุลกากร สรรพสามิต ป่าไม้ เพื่อวางแนวทางการสอบสวน ดำเนินการได้ครบทุกประเด็น มีพยานหลักฐานแน่นหนารัดกุม อุดช่องว่างทางกฎหมาย สามารถฟ้องให้ลงโทษผู้กระทำผิดได้อย่างจริงจัง  5.การตั้งด่านตรวจค้น ต้องเป็นไปตามหลักยุทธวิธีตำรวจ มีนายตำรวจระดับสัญญาบัตรเป็นหัวหน้าผู้ควบคุม ทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง จริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมาย ให้มีการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวระหว่างปฏิบัติหน้าที่เพื่อใช้อ้างอิงเป็นพยานหลักฐานได้

6.ให้บูรณาการในการตั้งด่านตรวจค้น มีตัวแทนจากทุกฝ่ายร่วมปฏิบัติ สามารถจับกุมความผิดตามกฎหมายได้ทุกประเภท เป็นเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบ และเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ซึ่งกันและกันได้  7.ให้จัดชุดลาดตระเวน ตรวจตราเส้นทาง ช่องทางธรรมชาติที่มักมีการลักลอบใช้ข้ามแดนไปมา ให้ประสานหน่วยเกี่ยวข้องหามาตรการป้องกัน หรือปิดเส้นทาง ช่องทางดังกล่าว และ 8.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา มิให้มีการเรียกรับเงิน ทรัพย์สิน ผลประโยชน์อื่นใดที่มิชอบด้วยกฎหมายโดยเด็ดขาด หากพบให้ดำเนินการทั้งการปกครอง วินัย และอาญา ทุกราย และให้พิจารณาข้อบกพร่องของผู้บังคับบัญชาชั้นต้น ตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2538 ด้วย

/////////////////////////////////////////

Ad 1
Ad 2