สืบเขื่องใน จับอดีตนักมวยมือยิงหนุ่มดับในงานหมอลำ หลังหลบหนีได้เพียง 16 ชม.
วันนี้ ( 8 พ.ย.67 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.50 น. ของวันที่ 7 พ.ย.67 พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สส.สภ.เขื่องใน จ.อุบลราชานี และ พ.ต.ท.นิรุตติ์ สีหานาม สว.สส.ฯ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เขื่องใน ประกอบด้วย ร.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กิตติพิทยานนท์, ร.ต.อ.สุรพล ศิริไทย,ร.ต.ต.ประวัติ มีปัญญา, ส.ต.ท.ศิวัช มนัส, ส.ต.ท.กีรติ ผดาศรี ร่วมกันนำหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานีที่ จ. 368/2567 ลงวันที่ 7 เดือนพฤศจิกายน 2567 ไปจับกุมนายพายุ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ราษฎรชาว ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่า “กระทำความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน” โดยจับกุมตัวได้ที่ บ้านหลังหนึ่ง (ขอสงวนบ้านเลขที่และชื่อหมู่บ้าน) ในพื้นที่ ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
ทั้งนี้ ก่อนจับกุมสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 7พ.ย.67 เวลา 01.22 น. พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ ตระการไทย สว.(สอบสวน) สภ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุ ทะเลาะวิวาท มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ที่ตลาดสดท่าไห หมู่ 10 ต.ท่าไห อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี จึงรายงาน พ.ต.อ.วิสาขะ เพ็ชรเกษม ผกก.สภ.เขื่องใน ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สส.สภ.เขื่องใน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเวร แต่ผู้ถูกยิงที่ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อในเวลาต่อมาคือนายรุ่งทิวา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ราษฎร ต.ท่าไห อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเขื่องในก่อนหน้านี้แล้ว และได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
ก่อนเกิดเหตุ ทราบว่า ในคืนวันที่ 6 พ.ย.67 ต่อเนื่องวันที่ 7 พ.ย.67 ได้มีงานและการแสดงของหมอลำซิ่งชื่อดังที่ตลาดสดท่าไห หมู่ 10 ต.ท่าไห อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี หลังหมอลำเลิกนายรุ่งทิวา ผู้เสียชีวิตได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับมือปืนผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นวัยรุ่นมาจากต่างถิ่น แล้วเดินออกจากงานหมอลำได้ประมาณ 20 เมตร ผู้ก่อเหตุได้ชักอาวุธปืนจ่อยิงนายรุ่งทิวา ที่หน้าอกขวา จำนวน 1 นัด จนทำให้นายรุ่งทิวาล้มลงนอนจมกองเลือดได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่รพ.เขื่องใน ดังกล่าวข้างต้น ส่วนมือปืนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีโดยจอดรถโตโยต้า สีดำ แบบ 4 ประตู ไว้ในที่เกิดเหตุ
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สส.สภ.เขื่องใน จ.อุบลฯ และทีมงานชุดสืบสวน ต้องทำงานกันอย่างหนักทั้งคืน จนทราบเบาะแสว่า ผู้ก่อเหตุชื่อ นายพ. (นามสมมุติ) เป็นราษฎร ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และนำหมายศาลไปจับกุมตัวได้ตามรายละเอียดข้างต้น
นายพายุ (สงวนนามสกุล) มือปืนผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงนายรุ่งทิวาจริง เนื่องจาก ตนและแฟนสาวพร้อมเพื่อนจากหมู่บ้านชีทวนได้มาเที่ยวดูหมอลำในงานดังกล่าว แล้วมีเรื่องกัน พอหมอลำเลิกพวกตนจะกลับบ้าน แต่วัยรุ่นบ้านท่าไหได้ตามมาจะตีพวกตน จากนั้นตนได้วิ่งหนีเพื่อจะขึ้นรถจักรยานยนต์กับเพื่อน แต่มีกลุ่มวัยรุ่นบ้านท่าไหยังไล่ติดตามมา และขณะเดียวกันผู้ตายได้มาล็อกคอตนไว้ ตนกลัวถูกวัยรุ่นที่ตามมารุมชกต่อย จึงดิ้นและผลักผู้ตายออก แล้วยิงสวนจนผู้ตายล้มลง จากนั้นจึงหลบหนี และมาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นของตนเองซึ่งซื้อมานานแล้ว
อนึ่ง แหล่งข่าวแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า สำหรับนายพายุ มือปืนผู้ก่อเหตุ เป็นอดีตนักมวยของจังหวัดอุบลราชธานี โดยใช้ชื่อชกมวยว่า พลอยพยัคฆ์ (ขอปกปิดชื่อค่ายมวย) ที่แฟนมวยในพื้นที่ อ.เมืองอุบลฯส่วนหนึ่งพอรู้จักกันบ้าง ชกเป็นคู่ประกอบรายการประมาณ 40 กว่าครั้ง ยังไม่ถึงขั้นคู่เอกและไม่ถึงกับว่าเป็นนักมวยดัง เคยเป็นมวยแทนมาชกที่กรุงเทพฯ 1 ครั้ง (มาชกแทนนักมวยคนอื่น) โดยชกที่เวทีมวยช่องดังที่มีการถ่ายทอดสดช่องหนึ่ง ผลการชกปรากฏว่า แพ้คะแนนให้แก่คู่ชก ต่อมาโรคโควิดระบาด ทำให้ไม่มีรายการชก ก็เลยเลิกชกมวยมาตั้งแต่บัดนั้น นับเป็นเวลาประมาณ 4-5 ปี แล้ว
Cr.ภาพ : พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สส.สภ.เขื่องใน
//////////////////////////////////////////////////